คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่มีผู้ซื้อที่ดินปลูกห้องแถวอุทิศให้ศาลเจ้าก่อนประกาศใช้กฎกระทรวงนั้น แม้จะไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงข้อ 5 ก็ตาม แต่เมื่อประกาศใช้กฎกระทรวงก็ได้ขึ้นบัญชีเป็นทรัพย์สมบัติของศาลเจ้าและได้ครอบครองมาตั้ง50 ปีแล้ว ดังนี้ย่อมสันนิษฐานได้ตามกฎกระทรวงข้อ 8ว่าเป็นที่ของศาลเจ้าอยู่ในความปกครองของรัฐบาล
เมื่อทางราชการแต่งตั้งให้ผู้ใดเป็นผู้จัดการปกครองศาลเจ้าผู้นั้นก็มีอำนาจฟ้องผู้ที่มาครอบครองโดยไม่มีสิทธิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินและโรงเรือน ตำบลตลาดอำเภอเมืองเป็นของศาลเจ้าไหหลำบ้านดอน จำเลยได้เข้าครอบครองโดยไม่มีสิทธิ และไม่ยอมออกขอให้ขับไล่และใช้ค่าเสียหาย จำเลยแก้ว่าเป็นของจำเลยได้มาโดยการซื้อทอดตลาด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีเห็นว่า โจทก์ทั้ง 2 ไม่มีอำนาจฟ้องให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลเจ้าไหหลำบ้านดอนเป็นกุศลสถานชนิดศาลเจ้าแม้การอุทิศให้จะไม่ได้ทำตามข้อ 5 แห่งกฎกระทรวงก็ตาม แต่เป็นการทำก่อนใช้กฎกระทรวง ศาลเจ้าไหหลำได้ครอบครองถือเป็นทรัพย์สินของศาลเจ้ามานานตั้ง 50 ปี เมื่อมีกฎกระทรวงก็ได้ขึ้นบัญชีเป็นทรัพย์สมบัติของศาลเจ้า ที่พิพาทจึงเป็นของศาลเจ้าไหหลำบ้านดอนเมื่อนายฮุยฮงเป็นผู้จัดการปกครองตามที่ทางราชการแต่งตั้ง (หนังสือข้าหลวงประจำจังหวัด) นายฮุยฮงก็มีอำนาจฟ้องจำเลยได้ตามกฎกระทรวงข้อ 14(ก) พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ย้อนสำนวนให้วินิจฉัยข้อเท็จจริงที่พิพาทกันต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่ได้ความดังกล่าวแม้จะไม่ปรากฏว่าการอุทิศที่ดินให้เป็นศาลเจ้าได้กระทำถูกต้องตามความข้อ 5 แห่งกฎกระทรวงหรือไม่ก็ตาม คดีย่อมต้องสันนิษฐานได้ตามกฎกระทรวงข้อ 8 ว่าเป็นที่ศาลเจ้าอยู่ในความปกครองของรัฐบาลเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องคดีได้

พิพากษายืน

Share