แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรื้อไม้กระดานหน้าถังเรียกค่าเสียหายโจทก์จะเรียกร้องเอาแต่เฉพาะราคาหรือค่าสินไหมทดแทนก็ได้
คดีที่ตัวโจทก์มิได้เบิกความเป็นพยานสนับสนุนคำฟ้องของตนเลยนั้น ศาลรับฟังแต่พยานอื่นของโจทก์ก็ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญายอมความต่อศาลว่าจะออกไปจากโรงเรือนซึ่งจำเลยเช่าจากโจทก์ ครั้นถึงกำหนดจำเลยมิได้ออกจากโรงเรือนอย่างปกติ ได้รื้อถอนเอาสิ่งปลูกสร้างอันเป็นส่วนควบของโรงเรือนซึ่งเป็นของโจทก์ไปหลายอย่าง มีไม้กระดานหน้าถังราคา 550 บาท กับของอื่นอีกหลายอย่าง เรียกค่าเสียหาย 1,580 บาท กับดอกเบี้ย
ศาลแพ่งทำการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว โจทก์แถลงว่าขอติดใจแต่เรื่องไม้หน้าถังราคา 550 บาทตามฟ้องอย่างเดียวฝ่ายจำเลยแถลงรับว่าไม้หน้าถังที่โจทก์ติดใจนี้จำเลยได้เอาไปจริงมีจำนวน 17 แผ่น ยินดีคืนให้โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนไม้กระดานหน้าถัง 17 แผ่นถ้าไม่สามารถคืนได้ให้จำเลยใช้ทรัพย์เป็นเงิน 550 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บังคับให้จำเลยใช้ราคาไม้กระดาน 550 บาทอย่างเดียว
จำเลยฎีกา เป็นข้อกฎหมาย 2 ข้อคือ ข้อแรกที่ให้จำเลยใช้ราคาโดยไม่ให้โอกาสคืนไม้กระดานก่อนไม่ชอบด้วยความยุติธรรมและที่โจทก์เรียกแต่ราคาทรัพย์ไม่เรียกตัวทรัพย์คืนเป็นการแกล้งจำเลย ข้อที่ 2 ฎีกาว่าตัวโจทก์มิได้มาเบิกความเป็นพยานเลยจะฟังแต่พยานอื่นบังคับจำเลยหาได้ไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฎีกาข้อแรกไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้แสดงความพอใจตกลงรับตามคำแถลงของจำเลยนั้นแต่อย่างใด และทั้งไม่มีกฎหมายในที่ใดจะบังคับว่าโจทก์เรียกร้องแต่เฉพาะค่าสินไหมทดแทนไม่ได้ เมื่อจำเลยทำให้เขาต้องเสียหายเขาย่อมเรียกค่าสินไหมทดแทนได้เสมอ ส่วนฎีกาข้อ 2 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าไม่มีกฎหมายหลักกฎหมายในที่ใดเลยว่า การฟังคำพยานหลักฐานจะต้องเป็นดังจำเลยว่า จำเลยไม่มีทางชนะคดีได้ ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย