คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6903/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่โจทก์ที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในเรื่องผู้ตายทำงานให้นายจ้างเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โดย ผู้ตายได้ทำงานล่วงเวลาเป็นอาจิณเพื่อใช้วินิจฉัยว่าผู้ตายถึงแก่ความตายในช่วงการทำงานให้นายจ้างหรือไม่นั้น เป็นอุทธรณ์ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสี่ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 ที่ 2 เป็นภริยา โจทก์ที่ 3เป็นบิดาและโจทก์ที่ 4 เป็นนายจ้างของนายอุธรณ์ เพ็ชณช่วยผู้ตายตามลำดับ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2538 ขณะที่ผู้ตายขับรถยนต์ไปส่งคนงานในกิจการตามที่จ้าง เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครศรีธรรมราชได้จ่ายค่าทำศพและเงินสงเคราะห์แก่โจทก์ที่ 1 และบุตร 2 คน กับโจทก์ที่ 3 แล้ว แต่เมื่อขอรับเงินทดแทนพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่จ่ายให้อ้างว่าผู้ตายไม่ได้ประสบอันตรายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงาน โจทก์ที่ 1 พร้อมด้วยบุตรและโจทก์ที่ 3 อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนต่อมาโจทก์ทั้งสี่รับผลการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนว่าผู้ตายถึงแก่ความตายมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงาน เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองมีมติว่าผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงาน และให้จำเลยทั้งสองจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ทั้งสี่ด้วย
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณาโจทก์ที่ 1 และที่ 4 ขอถอนฟ้องศาลแรงงานกลางอนุญาต
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า นายอุธรณ์ เพ็ชรช่วย ผู้ตายออกจากที่ทำงานเวลาประมาณ 18 นาฬิกา ขับรถยนต์ไปส่งคนงานซึ่งใช้เวลาประมาณ 45 นาทีผู้ตายประสบอันตรายถึงแก่ความตายเมื่อเวลา 21 นาฬิกาเศษ ภายหลังผู้ตายขับรถยนต์ไปส่งคนงานให้นายจ้างแล้ว จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากจุดส่งคนงานประมาณ10 กิโลเมตร การตายของผู้ตายจึงมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “เห็นว่า ที่โจทก์ที่ 2และที่ 3 อุทธรณ์ขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในเรื่องผู้ตายทำงานให้นายจ้างเป็นเวลาเกือบ 20 ปี โดยผู้ตายได้ทำงานล่วงเวลาเป็นอาจิณเพื่อใช้วินิจฉัยว่าผู้ตายถึงแก่ความตายในช่วงการทำงานให้นายจ้างหรือไม่นั้น เป็นอุทธรณ์ดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่าผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 2 และที่ 3

Share