แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าโจทก์นำข้าวเปลือก 10 เกวียน 50 ถัง ฝากในยุ้งจำเลย โจทก์นำสืบว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ ได้ตกลงเอาข้าวเปลือกชำระหนี้แทนเงินที่ติดค้างโจทก์อยู่ และที่โจทก์ซื้อจากจำเลยด้วยเงินสดด้วย รวม 10 เกวียน 50 ถังแล้วตกลงทำสัญญาฝากไว้ในยุ้งจำเลย ดังนี้ มิใช่นำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทำสัญญาหมาย จ.1 จริงซึ่งจำเลยสัญญาว่าจะคืนข้าวที่รักษาไว้แก่โจทก์จำเลยมีหน้าที่จะต้องส่งมอบข้าวเปลือกนั้นคืนให้แก่โจทก์ตามสัญญาหรือใช้ราคาให้โจทก์ โดยไม่จำเป็นจะต้องก้าวล่วงไปวินิจฉัยถึงปัญหาการซื้อขายและการรับฝากข้าวเปลือกว่าชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 460 และ 657 หรือไม่ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้ง 14/2510)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์นำข้าวเปลือก ๑๐ เกวียน ๕๐ ถัง ฝากไว้ในยุ้งจำเลยได้ทำหนังสือสัญญารับฝากและรักษาข้าวครบกำหนด โจทก์ไปขอรับข้าวคืน จำเลยไม่คืนให้ ขอให้จ่ายเงินแทนเป็นเงิน ๑๐,๘๑๕ บาท จำเลยไม่ยอมชำระขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่า ไม่เคยทำสัญญารับฝากข้าวเปลือกจากโจทก์
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า ข้าวเปลือกพิพาทเป็นข้าวที่จำเลยเอาชำระหนี้โจทก์แทนเงินและที่โจทก์ซื้อจากจำเลยด้วย รวม ๑๐ เกวียน ๕๐ ถัง แล้วโจทก์ฝากจำเลยไว้ พิพากษาให้จำเลยคืนข้าวเปลือก ๑๐ เกวียน ๕๐ ถัง ถ้าไม่สามารถคืนได้ ก็ให้ใช้เงิน ๑๐,๘๑๕ บาท
จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์นำสืบว่าเป็นเจ้าหนี้จำเลยและซื้อข้าวจำเลย ไม่เป็นการนำข้าวฝากจำเลยดังฟ้อง เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็นทั้งตามพฤติการณ์ยังไม่เป็นการซื้อขาย เพราะไม่มีการชั่งตวง วัดและส่งมอบข้าว ถือไม่ได้ว่าเป็นการฝากทรัพย์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่โจทก์นำสืบไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น แต่ที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยพาโจทก์กับพวกไปดูข้าวในยุ้งและกะกันเอาว่ามีข้าวมากกว่าจำนวนที่โจทก์ซื้อโดยมิได้ชั่งตวงเป็นการซื้อขายที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๖๐ กรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกจึงหาโอนไปยังโจทก์ไม่ โจทก์ผู้ฝากมิได้ส่งมอบข้าวเปลือก ยังไม่เป็นการการฝากตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๗ พิพากษากลับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การนำสืบของโจทก์เพื่อแสดงถึงการได้มาแห่งข้าวเปลือกและวิธีการที่จำเลยรับฝากข้าวเปลือก ไม่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นดังที่ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ส่วนปัญหาว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องส่งข้าวเปลือกที่รับฝากไว้ตามสัญญาหมาย จ.๑ คืนให้โจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทำเอกสารหมาย จ.๑ จริง ซึ่งจำเลยสัญญาว่าจะคืนข้าวที่รักษาไว้แก่โจทก์ จำเลยก็มีหน้าที่จะต้องส่งมอบข้าวเปลือกคืนให้โจทก์ไปตามสัญญา หรือใช้ราคาข้าวเปลือกนั้นให้โจทก์ โดยไม่จำเป็นจะต้องก้าวล่วงไปวินิจฉัยถึงปัญหาการซื้อขายและการรับฝากข้าวเปลือกว่าชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๖๐ และ ๖๕๗ หรือไม่
พิพากษากลับ บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.