คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2475

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จะนำพะยานบุคคลมาสืบ แก้ไขเอกสารไม่ได้ ทำสัญญากู้เงินไป 400 บาท แลมีข้อความว่าได้รับเงินแลมีข้อความว่าได้รับเงินแล้วดังนี้จะนำพะยานบุคคลมาสืบว่าได้รับเงินไปเพียง 200 บาทไม่ได้
ประมวลแพ่ง ม. 650 วรรค 2 – 329
ประมวลแพ่งมาตรานี้มิได้ ลบล้างหลักกฎหมาย ลักษณพะยานข้างบน การชำระหนี้เมื่อดอกเบี้ยติดค้างต้องหักเป็นค่าดอกเบี้ยก่อน

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป ๔๐๐ บาท แลมีความว่าได้รับเงินไปแล้ว ต่อมาจำเลยได้ผ่อนใช้ให้โจทก์แล้ว ๒๓๖ บาท บัดนี้โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่ยังค้างอยู่อีก จำเลยต่อสู้ว่าได้รับเงินไปเพียง ๒๐๐ บาท เท่านั้น กับได้ใช้คืนให้หมดแล้ว แลขออนุญาตนำพะยานบุคคลมาสืบประกอบ ข้อต่อสู้
ศาลล่างทั้ง ๒ อนุญาต
ศาลฎีกาเห็นว่า พะยานบุคคลที่จำเลยขอ สืบนั้น ศาลไม่รับฟัง แลตามประมวลแพ่ง ม. ๖๕๐ วรรค ๒ ก็มิได้บัญญัติให้ยกเลิกวิธีไม่รับฟังคำพะยานเช่นนี้ ส่วนจำนวนเงิน ๒๓๖ บาทที่จำเลยชำระแก่โจทก์ต้องถือ ว่าเป็นค่าดอดเบี้ยค้างชำระเสีย ๑๐ บาท จำเลยจึงบังคับเป็นหนี้โจทก์อีก ๑๗๕ บาท ให้จำเลยใช้แก่โจทก์

Share