คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6881/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เนื่องจากยังไม่มีพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสงขลาขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ มาตรา 7 ศาลแรงงานกลางจึงมีเขตอำนาจในท้องที่จังหวัดสงขลาด้วยตามมาตรา 60ศาลแรงงานกลาง (สงขลา) จึงเป็นศาลแรงงานกลางที่ออกไปนั่งพิจารณาพิพากษาที่จังหวัดสงขลา ทนายจำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาต่อศาลแรงงานกลางได้ โดยไม่จำต้องอ้างเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 10

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองจ่ายค่าจ้างจำนวน 117,062 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ในวันนัดพิจารณา ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานกลางขอเลื่อนการพิจารณา อ้างว่าทนายจำเลยทั้งสองติดว่าความที่ศาลแขวงปทุมวันซึ่งได้นัดไว้ก่อนที่จะรับแก้ต่างให้จำเลยทั้งสอง ศาลแรงงานกลางสั่งคำร้องดังกล่าวว่าคดีนี้ศาลนัดพิจารณาและสืบพยานโจทก์ ณ ศาลแรงงานกลาง (สงขลา) ในวันนี้ดังนั้นการยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีจึงต้องยื่น ณ ศาลแรงงานกลาง (สงขลา) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำการพิจารณาคดีอยู่ หากจะยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีที่ศาลแรงงานกลางซึ่งมิใช่สถานที่ที่ทำการพิจารณาคดีจะต้องอ้างเหตุที่ไม่สามารถไปยื่นคำร้องณ ศาลแรงงานกลาง (สงขลา) ได้แต่คำร้องนี้ไม่ปรากฏเหตุดังกล่าว จึงให้ยกคำร้องและในวันนั้นเองศาลแรงงานกลาง (สงขลา) มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัด ให้พิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายจำนวน 106,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “เห็นสมควรยกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองข้อ 2.2 ขึ้นพิจารณาก่อนว่า ศาลแรงงานกลางสั่งยกคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาของจำเลยทั้งสอง ฉบับลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2542 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เห็นว่าเนื่องจากยังไม่มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานจังหวัดสงขลาขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 7 ศาลแรงงานกลางจึงมีเขตอำนาจในท้องที่จังหวัดสงขลาด้วยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 60 ซึ่งบัญญัติว่า ในระหว่างที่ศาลแรงงานภาคและศาลแรงงานจังหวัดยังมิได้เปิดทำการในท้องที่ใด ให้ศาลแรงงานกลางมีเขตอำนาจในท้องที่นั้นด้วยโจทก์จะยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดแห่งท้องที่นั้นก็ได้ ให้ศาลจังหวัดแจ้งไปยังศาลแรงงานกลางเมื่อศาลแรงงานกลางสั่งรับคดีนั้นไว้พิจารณาแล้วให้ศาลแรงงานกลางออกไปนั่งพิจารณาพิพากษา ณ ศาลจังหวัดแห่งท้องที่นั้น ศาลแรงงานกลาง (สงขลา) จึงเป็นศาลแรงงานกลางที่ออกไปนั่งพิจารณาพิพากษาที่จังหวัดสงขลานั่นเอง ทนายจำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาต่อศาลแรงงานกลางได้ โดยไม่จำต้องอ้างเหตุสุดวิสัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 10 ที่ศาลแรงงานกลางสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสองดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาคดีแรงงานศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์จำเลยทั้งสองฟังขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์จำเลยทั้งสองต่อไปอีกว่าศาลแรงงานกลาง (สงขลา) มีคำสั่งให้จำเลยทั้งสองขาดนัดชอบหรือไม่ และจำเลยที่ 2 เป็นนายจ้างโจทก์หรือไม่ เพราะไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลง”
พิพากษายกคำสั่งของศาลแรงงานกลาง ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2542ที่ให้ยกคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาของจำเลยทั้งสอง และยกคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง (สงขลา) ให้ศาลแรงงานกลางสั่งคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาของจำเลยทั้งสองใหม่แล้วพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share