คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ช่องรูสังกะสีซึ่งพยานรู้เห็นเหตุการณ์กระทำผิดของจำเลยไม่เป็นวัตถุพยานตามกฎหมายของมาตรา 241 ประมวลวิธีพิจารณาอาญา

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลยที่ ๑-๒-๓ ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๐๑-๓๒-๓๓ พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย พ.ศ.๒๔๗๙ มาตรา ๖,๘,๙ ส่วนจำเลยที่ ๔-๕-๖ ไม่มีความผิดให้ปล่อยตัวไป
จำเลยที่ ๑-๒-๓ ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อที่จำเลยขอให้ศาลไปเผชิญพิสูจน์ ช่องรูสังกะสีรั้ว ซึ่งนางเสงี่ยม อ้างว่าได้มองเห็นเหตุการณ์ทางช่องรูนี้ แต่ศาลล่างไม่ไปดูวัตถุพยานข้อนี้ เพื่อลบล้างไม่ให้เชื่อถ้อยคำของนางเสงี่ยม จำเลยจึงอ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายไปประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๒๔๑ ซึ่งศาลต้องไปตรวจวัตถุพยานนั้น เมื่อศาลไม่ไปตรวจวัตถุพยานก็ลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าวัตถุพยานตามมาตรา ๒๔๑ มุ่งถึงวัตถุพยานสำคัญแห่งความผิดอันจะเป็นข้อลงโทษจำเลย หรือไม่ดังที่ปรากฏในฉบับภาษาฝรั่งเป็นความว่าวัตถุซึ่งใช้เป็นพยานสำคัญ (แม็ดทีเรียล เอ๊ฟวิเดนส์) ส่วนช่องสังกะสีในคดีนี้ไม่ใช่พยานสำคัญสำหรับความผิดที่ฟ้องร้อง เพราะจะมีช่องรูสังกะสีหรือไม่ ก็ไม่ใช่ส่วนของความผิด ความผิดอยู่ที่การปล้นทรัพย์ฉนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของศาลจะไปเผชิญดูช่องรูสังกะสีหรือไม่ก็ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าถ้าเป็นปัญหาว่าสังกะสีถูกเจาะรูหรือไม่ในคดีประทุสร้ายต่อทรัพย์ แล้วศาลอาจต้องไปเผชิญดูรูสังกะสีตามที่คู่ความร้อง ในเมื่อพยานบุคคลไม่มั่นคงว่าได้มีการประทุสร้ายเจาะรูสังกะสีหรือไม่
หรือในคดีความผิดฐานหมิ่นประมาทซึ่งเขียนอะไรหมิ่นประมาทไว้บนกำแพงประมาทซึ่งเขียนอะไรหมิ่นประมาทไว้บนกำแพงเมือง ถ้าเป็นปัญหาว่าสิ่งที่เขียนนั้นเป็นหมิ่นประมาทหรือไม่ ศาลอาจต้องไปเผชิญดูสิ่งขีดเขียนนั้นในเมื่อคู่ความอ้างเป็นพยานสำคัญในคดี ดังนี้จึงเห็นได้ว่า รูสังกะสีไม่ใช่พยานวัตถุตามความมุ่งหมายในมาตรา ๒๔๑ ศาลไม่จำต้องไปเผชิญสืบได้ ในเมื่อพยานหลักฐานในคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว จึงพิพากษายืนตาม

Share