แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เอกสารที่จำเลยอ้างเป็นพยานมิได้ปิดอากรแสมป์มาแต่แรก เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว แต่ก่อนศาลพิพากษาจำเลยขอให้ศาลส่งไปให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดอากรแสตมป์และเรียกอากรเพิ่มแล้ว ดังนี้ ย่อมถือเป็นเอกสารที่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์แล้วตามประมวลรัษฎากรมาตรา 117 จึงยอมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและโรงเรือนของโจทก์  กับเรียกค่าเสียหายด้วย
จำเลยให้การว่า  ได้ทำหนังสือสัญญาเช่าจากเจ้าของเดิมเป็นเวลา  ๓  ปี  ซึ่งยังไม่ครบกำหนด โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง
ศาลชั้นต้นเชื่อตามจำเลย  พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว โจทก์คัดค้านว่าไม่ควรรับฟังเอกสารสัญญาเช่าว่า  เป็นเอกสารที่ชอบด้วยกฎหมาย
ปรากฏว่า  หนังสือสัญญาเช่าฉะบับนี้  จำเลยอ้างเป็นพยาน  มิได้ปิดอากรแสตมป์มาแต่แรก  เมื่อสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว  แต่ก่อนศาลพิพากษา  จำเลยขอให้ศาลส่งไปให้เจ้าหน้าที่สรรพากรจัดการให้ถูกต้อง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดอากรแสตมป์  และเรียกอากรเพิ่มแล้ว  ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นเอกสารที่ปิดอากรแสตมป์บริบูรณ์แล้วตามประมวลรัษฎากรมาตรา  ๑๑๗  ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
จึงพิพากษายืน

