แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลจะออกคำบังคับให้ผิดไปจากคำพิพากษาไม่ได้
คำพิพากษาบังคับให้จำเลยซื้อข้าวจากโจทก์และให้จำเลยชำระราคาข้าวแต่โจทก์ได้จัดการขายข้าวเสียเอง โดยมิได้รับอนุญาตจากศาลหรือความยินยอมจากจำเลยดังนี้ โจทก์จะขอให้ศาลออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือให้ชำระราคาที่ยังขาดอยู่อีกไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลแพ่ง ให้จำเลยแพ้คดี คือบังคับให้จำเลยรับข้าวเหนียวกล้องจากโจทก์ ๒๔๐ กะสอบที่ซื้อขายกัน และให้จำเลยชำระราคาข้าว ๔๑๒๖ บาท ๘๐ สตางค์ แก่โจทก์ กับให้จำเลยเสียค่ารักษาวันละ ๕ บาท แต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๘๖ จนกว่าจะรับมอบข้าวไปจากโจทก์คดีถึงที่สุด
โจทก์ยื่นคำแถลงขอให้ศาลออกคำบังคับตามคำพิพากษาและได้แถลงว่า เนื่องจากผู้ให้เช่าลางต้องการลาง ทั้งการเก็บไว้นานทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ โจทก์จึงได้ขายข้าวนั้นเสียโดยวิธีประมูลได้เงิน ๑๙๔๔ บาท หักค่าใช้จ่าย ๓๐.๑๕ บาท เหลือ ๑ ๑๙๒๓,๒๕ (น่าจะเป็น ๑๔๒๓,๘๕ บาท) ฉะนั้นจำเลยจะต้องชำระราคาข้าวแก่โจทก์คงเหลือ ๒๒๐๕,๕๕ บาท ส่วนค่ารักษา โจทก์ขอถึงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๘๓ ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ได้ส่งมอบข้าวให้แก่ผู้ซื้อไป ศาลชั้นต้นสั่งให้ออกคำบังคับตามที่โจทก์แถลง
จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านฉะเพาะค่าข้าวราคา ๒๒๐๕,๕๕ บาทพร้อมกับนำเงินจำนวนนี้มาวางศาล ว่าคำบังคับของศาลไม่ถูกต้องตามคำพิพากษา และโจทก์ขายข้าวไปโดยพละการ จึงขอให้งดการจ่ายเงินจำนวนนี้ให้แก่โจทก์ไว้ และขอให้แก้ไขคำสั่งเสียใหม่
ศาลชั้นต้นนัดโจทก์มาพร้อมกัน ในที่สุดสั่งให้โจทก์รับเงินจำนวน ๒๒๐๕,๕๕ บาทนี้ไม่ได้ เมื่อจำเลยอ้างว่าได้รับความเสียหายจากโจทก์ประการใด ก็ได้ว่ากล่าวกับอีกเรื่องหนึ่ง
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเมื่อโจทก์ขายข้าวราคานี้ไปเสียแล้ว จะบังคับตามคำพิพากษา โจทก์ปฏิบัติตามไม่ได้คำบังคับจะเป็นอันไร้ผล จึงพิพากษายืน
จำเลยฎีกา มีปัญหาที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยแต่เพียงว่า คำสั่งของศาลแพ่งที่บังคับให้จำเลยชำระราคาที่ยังขาดอยู่ให้แก่โจทก์นั้นเป็นการชอบหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำพิพากษาเรื่องนี้บังคับให้จำเลยซื้อข้าวรายพิพาทจากโจทก์ แต่โจทก์กลับนำข้าวนั้นไปขายแก่คนอื่นเสียก่อน โดยจำเลยยังมิทันได้รับคำบังคับตามคำพิพากษาเช่นนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ปฏิบัติผิดทาง เพราะถ้าโจทก์มีความจำเป็นประการใดที่จะรอมอบข้าวให้แก่จำเลยไม่ได้ ก็ควรขออนุญาตศาลหรือทำความตกลงกับจำเลยเสียก่อน ในคดีนี้ไม่ควรบังคับจำเลยตามคำขอใหม่ของโจทก์ เมื่อโจทก์เสียหายก็ให้โจทก์เป็นฝ่ายไปว่ากล่าวเอากับจำเลยอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่ให้จำเลยไปว่ากล่าว เพราะไม่ใช่ความผิดของจำเลยแต่ประการใด จึงพิพากษากลับคำสั่งศาลแพ่งและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชั้นบังคับคดี โดยให้โจทก์นำเงิน ๒๒๐๓,๕๕ บาทที่รับไปคืนศาลเพื่อมอบคืนให้จำเลย