คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ก็ไม่เป็นผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะรับเช็คดังกล่าวมาแล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีแล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยออกเช็คหมาย จ.1 และ จ.3 ให้โจทก์ ต่อมานายเตียลิบเซ้งนำเช็คเอกสารหมาย จ.1 และนายบุ้นเอี่ยมนำเช็คเอกสารหมาย จ.3 ไปเข้าบัญชีของแต่ละคนที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาราชวงศ์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2519 และวันที่ 28 มกราคม2519 ตามลำดับเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาคลองสาน ปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คนั้น โจทก์จึงรับเช็ค 2 ฉบับนั้นคืน แล้วนำไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาหัวลำโพง อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2519 เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็ค ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินอีก ทั้งนายเตียลิบเซ้งและนายบุ้นเอี่ยมเป็นผู้ทรงเช็คเอกสารหมาย จ.1 และ จ.3 โดยชอบ

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้นเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อขณะที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรก นายเตียลิบเซ้งและนายบุ้นเอี่ยมเป็นผู้ทรงเช็คเอกสารหมาย จ.1 และ จ.3 โดยชอบนายเตียลิบเซ้งและนายบุ้นเอี่ยมจึงเป็นผู้เสียหายในความผิดที่จำเลยกระทำนั้น โจทก์ซึ่งไม่ใช่ผู้ทรงเช็คในขณะนั้นจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย แม้ต่อมาโจทก์จะรับเช็คดังกล่าวนั้นกลับคืนมา แล้วนำไปเบิกเงินจากธนาคารและถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก ไม่ว่าจำเลยจะตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินอีกหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยซึ่งเกิดเป็นความผิดแล้วกลับเป็นความผิดซ้ำขึ้นมาอีก โจทก์จึงไม่เป็นผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

พิพากษายืน

Share