แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าตรวจคำฟ้องโจทก์ คำให้การจำเลย ฟ้องแย้งจำเลย คำร้องขอถอนฟ้อง โจทก์และคำคัดค้านการขอถอนฟ้องโจทก์ของจำเลยแล้ว อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ ถือว่าศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยให้แล้วว่า คำคัดค้านของจำเลยยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 141
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากตึกแถวเลขที่ 132 ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 126,600 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 13.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ และค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 20,000 บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะส่งมอบตึกแถวคืนโจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้อง และขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินค่าต่อสัญญาคืนแก่จำเลย 866,666.66 บาท กับใช้ค่าเสียหาย24,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับจากวันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ขอยืนยันตามฟ้องเดิมทุกประการ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ก่อนวันชี้สองสถาน โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องอ้างว่าเพิ่งค้นพบหลักฐานบางประการ จึงขอถอนฟ้องเพื่อปรึกษากับกรรมการโจทก์ต่อไป
จำเลยคัดค้านว่า ที่โจทก์อ้างว่าเพิ่งค้นพบหลักฐานบางประการนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอ หากศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จำเลยจะได้รับความเสียหาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ และให้จำหน่ายฟ้องแย้งจากสารบบความ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่าสมควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยจะคัดค้านการถอนฟ้องของโจทก์ว่าคำร้องขอถอนฟ้องของโจทก์ที่อ้างว่าเพิ่งค้นพบหลักฐานบางประการนั้น ไม่มีเหตุเพียงพอและทำให้จำเลยได้รับความเสียหายก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล โดยพิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นว่าสมควรหรือไม่ประการใด คดีนี้โจทก์ขอถอนฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การ ยังไม่มีการสืบพยานและศาลชั้นต้นได้ฟังคำคัดค้านของจำเลยแล้ว ที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ส่วนที่จำเลยฎีกาโต้แย้งว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นไม่มีเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวงและคำวินิจฉัยของศาลในประเด็นแห่งคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 141 นั้น เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าตรวจคำฟ้องโจทก์ คำให้การจำเลย ฟ้องแย้งจำเลย คำร้องขอถอนฟ้องโจทก์และคำคัดค้านการขอถอนฟ้องโจทก์ของจำเลยแล้ว เห็นสมควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้นั้น ถือว่าศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยให้แล้วว่าคำคัดค้านของจำเลยยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลชั้นต้นจะสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 141 ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน