คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 666/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องเพราะฟ้องไม่บรรยายฟ้องข้อเท็จจริงยืนยันมาว่าทางพิพาทตามฟ้องนั้นเป็นทางสาธารณะ ทางภารจำยอมหรือทางจำเป็นไม่ได้มีการวินิจฉัยในประเด็นข้อที่พิพาทกันด้วยเรื่องทางเดินภารจำยอมรายพิพาทหรือไม่ โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยอีกอ้างว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอม ฉะนั้น คดีหลังจึงไม่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าทางเดินตามแผนที่ท้ายฟ้อง โจทก์กับบริวารใช้เดินไปมาจากบ้านสู่ถนนหลวงมากกว่า ๒๐ ปี จึงเป็นภารจำยอม โจทก์มีสิทธิ์ใช้กว้าง ๑.๒๐ เมตร ยาวจากบ้านโจทก์ไปถึงถนนหลวงประมาณ ๕๐ เมตร จำเลยที่ ๒ ด้วยความยินยอมของจำเลยที่ ๑ จัดหาส้วมซึมให้รุกล้ำเข้ามาในทางเดินนี้ประมาณ .๗๕ เมตร และรื้อสะพานไม้ที่โจทก์ทำไว้ ขอให้พิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางเดินภารจำยอม ให้จำเลยรื้อส้วมและสิ่งปลูกสร้างกีดกั้นออกไป ฯลฯ
จำเลยให้การว่าทางเดินตามฟ้องไม่เคยมีมาก่อน โจทก์เคยฟ้องจำเลยที่ ๒ กับพวกเกี่ยวกับทางเดิน ส้วม และสะพานไม้ ตลอดจนเรียกค่าเสียหาย คดีถึงที่สุดโดยศาลพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ตามสำนวนคดีแพ่งแดงที่ ๕/๒๕๐๐ โจทก์กลับมาฟ้องคดีนี้อีก จึงเป็นการฟ้องซ้ำ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าทางเดินพิพาทในที่ดินจำเลยที่ ๑ เป็นทางภารจำยอมให้จำเลยที่ ๒ รื้อส้วมและสิ่งปลูกสร้างออกไป ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ปัญหามีว่าฟ้องโจทก์คดีนี้ฟ้องซ้ำกับคดีของศาลจังหวัดปากพนังเลขแดงที่ ๕/๒๕๐๐ หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าในคดีแดงที่ ๕/๒๕๐๐ นั้นศาลฎีกาได้พิพากษายกฟ้อง เพราะฟ้องไม่บรรยายข้อเท็จจริงยืนยันว่าทางพิพาทตามฟ้องนั้นเป็นทางสาธารณะ ทางภารจำยอมหรือทางจำเป็นไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นข้อพิพาทกันด้วยเรื่องทางเดินภารจำยอมรายพิพาทหรือไม่ ฉะนั้น คดีนี้จึงไม่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัย โดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ส่วนข้อเท็จจริงนั้นศาลฎีกาฟังว่าทางพิพาทเป็นภารจำยอม
พิพากษายืน.

Share