คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6617/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ของกลางทั้ง2ก้อนแต่ละก้อนถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนเข้าด้วย จึงเป็นวัตถุอันเดียวกัน การที่จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และอีเฟดรีนดังกล่าวเป็นการกระทำคราวเดียวกัน หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมไม่ ต้องลงโทษฐานมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 8, 15, 66 วรรคสอง, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 91พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 5, 6 (7 ทวิ),62, 106 ทวิ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11, 12(1), 18 วรรคสอง,62, 81 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพฐานเข้ามาในราชอาณาจักรและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ปฏิเสธฐานมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และอีเฟดรีนไว้ในครอบครอง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11, 12(1), 18 วรรคสอง, 62 วรรคหนึ่ง, 81กับพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66 วรรคสอง, 102 ที่แก้ไขแล้ว และพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 62 วรรคแรก 106 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว กับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 91การกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษฐานเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ฐานอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ฐานมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายปริมาณเกิน 100 กรัม จำคุกตลอดชีวิต และฐานมีอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีกำหนด จำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองฯ นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้วคงลงโทษฐานเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 3 เดือน ฐานอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 เดือน และคำรับชั้นสอบสวนของจำเลยในความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้างนับเป็นเหตุบรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้หนึ่งในสามโดยเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78ประกอบมาตรา 53 แล้วคงลงโทษฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ จำคุก33 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้ง 4 กระทง มีกำหนดรวม 43 ปี 10 เดือนริบเฮโรอีนกับอีเฟดรีน ถุงพลาสติกและเสื้อกล้ามของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมผงสีขาวอัดเป็นแท่ง 2 ก้อน เมื่อส่งไปตรวจพิสูจน์พบว่านอกจากมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ หนัก 102.1 กรัม แล้วยังมีอีเฟดรีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 77.1 กรัม ผสมอยู่ด้วยตามรายงานการตรวจพิสูจน์เอกสารหมาย จ.6 จึงมีการแจ้งข้อหาจำเลยเพิ่มเติมว่ามีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดด้วยศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยเสียก่อนเป็นประการแรกว่า การที่จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการมีอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด เป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาขึ้นมา แต่ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 เห็นว่า เฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ ของกลางทั้ง 2 ก้อนแต่ละก้อนถูกผสมด้วยอีเฟดรีนบางส่วนเข้าด้วยตามรายงานการตรวจพิสูจน์เอกสารหมายจ.6 จึงเป็นวัตถุอันเดียวกัน การที่จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ และอีเฟดรีนดังกล่าวเป็นการกระทำคราวเดียวกัน หาใช่เป็นความผิดหลายกรรมดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทจึงลงโทษฐานมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปัญหาที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษฐานมีอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เบาลงและลดโทษฐานนี้ให้ด้วยนั้น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยอีกต่อไป”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ลงโทษฐานมีอีเฟดรีนไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด รวมเป็นโทษจำคุก 33 ปี 10 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share