แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนจะทำการสอบสวน ณ ที่ใดเวลาใดก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควร แม้จะต่างจังหวัดก็ตาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา มาตรา 249, 60, 63,338(3)
คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า เหตุเรื่องนี้เกิดที่ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร และนางลมูล นายแช่ม นายแถม นายวงษ์พยานโจทก์ก็อยู่บ้านดงกะพี้ อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เหมือนกันนายร้อยตำรวจเอกเสริม รองผู้กำกับการตำรวจจังหวัดพิจิตร และในขณะนั้นเป็นผู้รักษาการแทนผู้กำกับการด้วย ได้นำพยานที่กล่าวชื่อมาแล้วไปทำการสอบสวนเรื่องนี้ที่โรงแรมอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เป็นการนอกเขตอำนาจและหน้าที่ของนายร้อยตำรวจเอกเสริม โดยไม่มีเหตุจำเป็นอย่างใด การสอบสวนไม่ชอบตามวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78, 130 และฎีกาที่ 767/2486 พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การสอบสวนสมบูรณ์แล้ว และฟังข้อเท็จจริงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 20 ปี
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาเห็นว่านายร้อยตำรวจเอกเสริม มีอำนาจที่จะทำการสอบสวนคดีนี้ได้ตามมาตรา 18 และตามมาตรา 130 เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสอบสวนจะทำการสอบสวน ณ ที่ใดเวลาใดก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควรแม้จะต่างจังหวัดก็ตาม การสอบสวนคดีนี้เป็นการสอบสวนที่ชอบด้วยกฎหมาย และฟังข้อเท็จจริง ยืนตามศาลอุทธรณ์