คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาของผู้ตายฟ้องให้รับผิดร่วมกับจำเลยในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยกระทำไปในทางการที่จ้าง และโจทก์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ยและใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทน ให้บิดาของผู้ตายไปแล้ว ค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งศาลสั่งให้ใช้แทนนั้น เนื่องจากโจทก์ต่อสู้คดีและเป็นฝ่ายแพ้คดี ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของโจทก์ ได้ขับรถโดยประมาทชนนายรัฐพรถึงแก่ความตาย โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหาย ๕๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๙,๑๑๘ บาท ซึ่งจำเลยจะต้องรับผิด จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าว ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยต้องรับผิดดใช้ดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมที่โจทก์ชำระให้บิดาผู้ตายตามคำพิพากษาด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยรวมจำนวน ๕๗,๐๘๓ บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๕๗,๐๘๓ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แกให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า จำเลยต้องชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียม ๒,๐๓๕ บาทให้โจทก์ด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่า ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาผู้ตายฟ้องนั้น หากโจทก์ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บิดาผู้ตายก่อนถูกฟ้องแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดเสียค่าฤชาธรรมเนียมแต่อย่างใด ค่าฤชาธรรมเนียมจึงไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิดของจำเลย โจทก์จะไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๒๖ ไม่ได้
พิพากษายืน

Share