คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6524/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายเรื่องค่าเสียหายมาในฟ้องแล้ว แต่ศาลชั้นต้น มิได้กำหนดเป็นประเด็นไว้และคู่ความไม่ได้โต้แย้งย่อมถือว่าคู่ความได้สละประเด็นดังกล่าว การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะนอกประเด็น เดิมที่ดินของโจทก์และจำเลยเป็นโฉนดเดียวกันครั้นเจ้าของเดิมแบ่งแยกออกเป็นโฉนดเลขที่ 11887 และเลขที่ 1521 แล้ว ได้มีการโอนกันต่อมาหลายทอดจนถึงโจทก์ และจำเลย โดยโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 11887ส่วนจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 ซึ่งได้จดทะเบียนภาระจำยอมเป็นภารยทรัพย์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 11887 ซึ่งเป็นสามยทรัพย์ เมื่อภารจำยอมนี้ยังไม่ระงับสิ้นไป จึงมีผลผูกพันจำเลยให้ต้องยอมให้โจทก์มีสิทธิใช้ต่อไป ดังนี้ เมื่อรูปคดีมิใช่เป็นเรื่องจำเลยผู้เป็นเจ้าของ ภารยทรัพย์เรียกให้พ้นจากภารจำยอมอันเกี่ยวกับทรัพย์ ในกรณีที่ภารยทรัพย์ไม่ใช้หรือใช้ไม่ได้ตามรูปการเพื่อ ประโยชน์แก่ทรัพย์ส่วนใดจึงชอบที่ศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสอง รื้อถอนแผงลอยและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกจากที่ดินพิพาท ซึ่งเป็นภารยทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ทั้งหกฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 และที่ 2 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายสมพงษ์ มิ่งเจริญวงศ์ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 14048 และ 14049 โจทก์ที่ 3เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 14056 และ 14057โจทก์ที่ 4 เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 14050 โจทก์ที่ 5เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 14054 และ 14055โจทก์ที่ 6 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 14046และ 14047 โดยที่ดินดังกล่าวแบ่งแยกมาจากโฉนดเลขที่ 11887เดิมผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 ได้ตกลงยอมให้ที่ดินดังกล่าวตกเป็นภาระจำยอมเรื่องทางเดินทั้งแปลงเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 11887 โจทก์ทั้งหกย่อมได้รับประโยชน์เรื่องทางเดินตามบันทึกข้อตกลง แต่โจทก์ทั้งหกไม่สามารถใช้สอยเป็นประโยชน์ได้เพราะมีแผงลอยและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ตั้งกีดขวางปิดกั้นอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 โจทก์ทั้งหกบอกกล่าวจำเลยทั้งสองในฐานะเจ้าของภารยทรัพย์ให้เปิดทางภารจำยอมแล้ว แต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ทำให้โจทก์ทั้งหกเสียหายขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อถอนแผงลอยและบรรดาสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 1521ด้านออกสู่ถนนพิษณุโลกและถนนสามเสน หากจำเลยไม่ยอมรื้อถอนให้โจทก์มีอำนาจรื้อถอน โดยให้จำเลยทั้งสองเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งหกเดือนละ 10,000 บาท นับจากวันฟ้องจนกว่าจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 1521
จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสองไม่เคยกระทำการใด ๆ เป็นเหตุให้ภาระจำยอมทางเดินเสื่อมความสะดวกโจทก์ทั้งหกเป็นฝ่ายปลูกสร้างบาทวิถีและตึกแถวของโจทก์ทั้งหกรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองเคยบอกกล่าวให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของจำเลยทั้งสองและใช้ค่าเสียหายแล้ว แต่โจทก์ทั้งหกเพิกเฉยขอให้ยกฟ้องและบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง
โจทก์ทั้งหกให้การแก้ฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง
ระหว่างพิจารณา โจทก์ที่ 5 ขอถอนฟ้องจำเลยทั้งสองและจำเลยทั้งสองขอถอนฟ้องแย้งโจทก์ที่ 5 ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และโจทก์ที่ 6และให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 ส่วนที่ไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตามรูปการดังต่อไปนี้พ้นจากภารจำยอมโดยเป็นไปตามภาพถ่ายแผนที่ท้ายคำให้การและฟ้องแย้งช่วงถนนลูกหลวงออกสู่ถนนพิษณุโลกหมายเลข 1 (สีเขียว) แผงโครงเหล็กหลังคามุงกระเบื้องกว้าง 4.20 เมตร ยาว 13.80 เมตร หมายเลข 2 (สีเขียว)แผงโครงเหล็กหลังคามุงกระเบื้องและโครงเหล็กหลังคามุงผ้าใบกว้าง 4.70 เมตร ยาว 79.50 เมตร หมายเลข 5 (สีน้ำตาล)แผงโครงเหล็กหลังคามุงกระเบื้อง ประตูเหล็กม้วนกว้าง 2.40 เมตรยาว 10.90 เมตร หมายเลข 6 (สีน้ำตาล) แผงโครงเหล็กหลังคามุงกระเบื้อง ประตูเหล็กม้วนกว้าง 2.40 เมตร ยาว 11.40 เมตรด้านถนนสามเสน หมายเลข 3 (สีฟ้า) แผงโครงเหล็ก หลังคามุงกระเบื้อง ประตูเหล็กม้วนกว้าง 2.50 เมตร ยาว 12 เมตรหมายเลข 4 (สีฟ้า) แผงโครงเหล็กหลังคามุงกระเบื้องประตูเหล็กม้วนกว้าง 2.50 เมตร ยาว 12 เมตร ด้านถนนลูกหลวง(ทางเข้าศาลเจ้า) หมายเลข 7 (สีเหลือง) แผงโครงเหล็กหลังคามุงกระเบื้อง ประตูเหล็กม้วนกว้าง 2.52 เมตร ยาว 11.62 เมตร หมายเลข 8 (สีเหลือง) บริเวณใช้ทำการค้าขายและให้เช่าพื้นยกระดับกว้าง 2.52 เมตร ยาว 11.62 เมตรบริเวณศาลเจ้าและศาลพระภูมิหมายเลข 9 (สีม่วง) ที่ดินจากแนวตึกหมายเลข 356/16 ถึงหมายเลข 356/20 ความยาว 25 เมตรที่ดินจากแนวหลังตึก หมายเลข 356/20 ทะแยงไปทางทิศตะวันออกจดหลักเขตหมายเลข 6093 ความยาว 22.50 เมตร ที่ดินจากแนวหลักเขตหมายเลข 6093 ไปตามแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้จดหลักเขต 60838 ความยาว 12.50 เมตร ที่ดินสุดแนวเขตที่ดินแปลง 1521 จดแนวเขตที่ดินเลขที่ 50, 49 และ 47 ความยาว 67.50 เมตร โดยให้โจทก์ไปจดทะเบียนเพิกถอนภารจำยอมดังกล่าว หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทนโจทก์
โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนแผงลอยและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกจากถนนที่ดินโฉนดเลขที่ 1521ด้านออกสู่ถนนพิษณุโลกและถนนสามเสน กับให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 เดือนละ 10,000บาท นับจากวันฟ้องจนกว่าจะรื้อถอนแผงลอยและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆออกจากที่ดินดังกล่าว ส่วนที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ขออำนาจรื้อถอนเองโดยให้จำเลยทั้งสองเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนกรณีที่จำเลยทั้งสองไม่ยอมรื้อถอนนั้นให้ยกและให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสอง เป็นประการแรกว่า การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่ฝ่ายโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะบรรยายเรื่องค่าเสียหายในฟ้องเมื่อศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นไว้และคู่ความไม่ได้โต้แย้งย่อมถือว่าคู่ความได้สละประเด็นดังกล่าวการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่ฝ่ายโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะนอกประเด็น
ปัญหาตามฎีกาจำเลยทั้งสองประการต่อไปมีว่า ที่พิพาทตามฟ้องแย้งของจำเลยพ้นจากภารจำยอมในที่ดินของโจทก์หรือไม่คดีได้ความว่าในชั้นแรกที่ดินของฝ่ายโจทก์และจำเลยเป็นโฉนดเดียวกัน ครั้นเจ้าของเดิมแบ่งแยกออกเป็นโฉนดเลขที่ 11887 และเลขที่ 1521 แล้ว ได้มีการโอนกันต่อมาหลายทอดจนถึงโจทก์และจำเลยทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 11887 ส่วนฝ่ายจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 สำหรับที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 ทั้งได้ความด้วยว่า เมื่อปี 2525นายสุชาติซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1521 ในขณะนั้นได้จดทะเบียนภาระจำยอมในที่ดินพิพาท ซึ่งเป็นภารยทรัพย์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินโฉนดเลขที่ 11887 ซึ่งเป็นสามยทรัพย์เมื่อคำนวณนับแต่ปี 2525 ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2532ซึ่งเป็นวันที่ฝ่ายโจทก์ฟ้องคดียังไม่ครบ 10 ปี ภารจำยอมนี้จึงยังไม่ระงับสิ้นไปและมีผลผูกพันฝ่ายจำเลยทั้งสองที่ต้องยอมให้ฝ่ายโจทก์มีสิทธิใช้ รูปคดีมิใช่เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าของภารยทรัพย์เรียกให้พ้นจากภารจำยอมอันเกี่ยวกับทรัพย์นั้น ในกรณีที่ภารยทรัพย์ไม่ใช้หรือใช้ไม่ได้ตามรูปการเพื่อประโยชน์แก่ทรัพย์ส่วนใดดังที่ฝ่ายจำเลยทั้งสองอ้างที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนแผงลอยและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ออกจากที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 1521ด้านออกสู่ถนนพิษณุโลกและถนนสามเสนนั้นชอบแล้ว
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองไม่ต้องใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share