คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีอาญาฐานฆ่าคนตายนั้น แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะฆ่า แต่โจทก์มีพยานประพฤติเหคุแวดล้อม กรณี และคำผู้ตายระบุไว้ในเวลาใกล้จะตาย ซึ่งรู้สึกตัวดีว่าจะต้องตายเป็นแน่แท้ และพฤติการณ์บ่งชัดว่าผู้ร้ายราย นี้เป็นจำเลยแล้ว ศาลก็ย่อมวินิจฉัยลงโทษจำเลยได้./

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้ง ๒ สมคบกันยิงนายคำ หมื่นถา ถึงแก่ความตายโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ขอให้ลงโทษ จำเลยทั้ง ๒ ปฏิเสธอ้างฐานที่
คดีนี้โจทก์ไม่มีประจักษืพยานรู้เห็นขณะยิงอาศัยแต่พยานประพฤติเหตุแวดล้อมกรณีและคำผู้ตาย
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ จำคุกคนละ ๑๕ ปี ลดโทษให้จำเลยที่ ๒ ตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสาม คงจำคุกเลยที่ ๒ มีกำหนด ๑๐ ปี.
จำเลยทั้ง ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาคดีนี้แล้ว โจทก์สืบพยานได้เหตุผลแวดล้อม นับตั้งแต่จำเลยยืมผืนกับกระสุน ๒ นัดของนาง สาวบุญปัน แล้วไปเรือนนางตา พบผู้ตาย ครั้นผู้ตายลงเรือนนางตาไปได้หน่อยก็ถูกยิงด้วยกระสุนปืนชะนิดเดียวกับที่ นางสาวบุญปันให้ยืม ผุ้ตายระบุชื่อ จำเลยเอาปืนรอยยิงใหม่ ๆกับกระสุนปืนที่เหลืออีก ๑ นัด ไปคืนนางสาวบุญปัน บอก ให้รีบล้างปืนเสีย จำเลยที่ ๑ เป็นคนเกะกะมีสาเหตุกับบ้านนางตา ลาหน้าที่ทหารมาบ้านได้ไม่กี่วัน พอเกิดเหตุแล้วรุ่ง ขึ้นไปกำชับมิให้นายแสนแพร่งพรายและรีบกลับกองทหาร มีเหตุผลต่อเนื่องเชื่อมโยงกันตลอดสายทั้งก่อนและหลัง กระชันชิดกับขณะที่เกิดเหตุ ประกอบด้วยคำผู้ตายระบุไว้ในเวลาใกล้ตาย และรู้สึกตัวดีว่าจะต้องตายลงเป็นแน่แท้ ไม่ เป็นโอกาศที่จะแกล้งปรักปรำให้ก่อเวรร้ายบาปกรรมติดตัวไปในปกโลกได้อีกแล้ว พฤติการณ์บ่งชัดว่า ผู้ร้ายรายนี้หา ใช่ใครอื่น
จึงพิพากษายืน.

Share