คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยใช้ปืนสั้นซึ่งง้างนกไว้แล้วจ้องจะยิงด้วยเจตนาฆ่าคน ๆ หนึ่งแต่มีคนอีกคนหนึ่งมาปัดปืนเฉไปเสียทันใด กระสุนปืนที่ลั่นออกจึงพลาดไปถูกอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตาย ดังนี้ ถือว่ากระสุนปืนที่ลั่นพลาดไปถูกคนอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตายนั้นเกิดจากการยิงของจำเลยไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นการกระทำโดยพลาดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 60

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนพกลูกซองยิงทำร้ายด้วยเจตนาฆ่านายเสงี่ยม โกมล แต่กระสุนได้พลาดไปถูกนายสมจิตต์ ทัศนา ถึงแก่ความตาย และถูกนายหวัง เรืองฤทธิ์ นายสง่า คำพร ได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 60, 295 และริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 60 และมาตรา 295 ลงโทษตามมาตรา 288ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 16 ปี ของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมึนเมาและโกรธนายเสงี่ยมที่เข้าห้ามนายห้อยพวกของจำเลยไม่ให้เล่นกลองยาว จึงชักปืนออกจะยิงนายเสงี่ยม แต่นายซ้อนพวกของจำเลยปัดปากกระบอกปืนให้เฉไปกระสุนปืนจึงพลาดไปถูกนายสมจิตต์ถึงแก่ความตายกรณีนี้ ควรฟังว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ เมื่อปรากฏตามคำพยานโจทก์ว่า จำเลยได้ง้างนกปืนขึ้นจ้องไปยังนายเสงี่ยมอยู่แล้ว แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่านายเสงี่ยม หากแต่นายซ้อนรีบปัดปืนเสียทันใด กระสุนปืนที่ออกจากลำกล้องจึงเฉไปไม่ถูกนายเสงี่ยม ถือได้ว่ากระสุนที่ลั่นพลาดไปถูกนายสมจิตต์ถึงตายนั้น เกิดจากการยิงของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิด

พิพากษายืน

Share