คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 645/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจได้รับมอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของทางราชการไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่ต่อมาได้นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวไปฝากไว้กับบุคคลอื่นและถูกคนร้ายลักเอาไปจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ดังกล่าวเป็นของตนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา147และจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำให้ทรัพย์นั้นสูญหายจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา158.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 158 กับขอให้ จำเลย คืน อาวุธปืน ซอง กระสุนปืน กระสุนปืน หรือ ใช้ ราคา5,060 บาท แก่ กรมตำรวจ ภายใน 30 วัน นับแต่ ศาล พิพากษา
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147, 158 เป็น การ กระทำ กรรมเดียว ผิดกฎหมาย หลาย บท ลงโทษ ตาม 147ซึ่ง เป็น บทหนัก ให้ จำเลย คืน อาวุธปืน ซอง กระสุนปืน กระสุนปืนหรือ ใช้ ราคา 5,060 บาท แก่ กรมตำรวจ ภายใน 30 วัน นับแต่ ศาล พิพากษา
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา กลับ ให้ ยกฟ้อง โจทก์
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ข้อเท็จจริง ฟัง ได้ ว่า ขณะ เกิดเหตุ จำเลย เป็นเจ้าพนักงาน ตำรวจ ประจำ อยู่ สถานีตำรวจ ภูธร ตำบล คลอมใหม่ อำเภอยะรัง จังหวัด ปัตตานี เมื่อ วันที่ 13 กรกฎาคม 2518 นายดาบตำรวจ บรรจงสัมฤทธิ์ผล หัวหน้า สถานีตำรวจ ภูธร ตำบล คลองใหม่ ได้ สั่ง ให้จ่าสิบตำรวจ เนื่อง วรรณลิวงศ์ จ่าย อาวุธ ปืนเล็กกล 05 นาโต หมายเลข06474 พร้อมด้วย ซองกระสุนปืน 3 ซอง และ กระสุนปืน 60 นัด ซึ่ง ใช้ กับอาวุธปืน ดังกล่าว รวม ราคา 5,060 บาท อัน เป็น ทรัพย์สิน ของ กรมตำรวจให้ แก่ จำเลย ไว้ ใช้ ใน การ ปฏิบัติ หน้าที่ ปราบปราม ผู้ กระทำ ผิดกฎหมาย ต่อมา วันที่ 1 กรกฎาคม 2522 นายดาบตำรวจ บรรจง ได้ เรียกตรวจสอบ อาวุธปืน ที่ จ่าย ให้ แก่ จำเลย ไป ปรากฏ ว่า จำเลย ไม่ สามารถนำ อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ที่ รับ มอบหมาย ให้ ดูแล รักษา ไว้มา ให้ ตรวจสอบ และ นำ มา คืน ให้ แก่ ทางราชการ ได้ โดย เชื่อ ได้ ว่าจำเลย ได้ นำ อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ของ ทางราชการ ที่ ได้ รับมอบหมาย ไว้ ใช้ ปฏิบัติ หน้าที่ ไป ฝาก นาย แวสะมะแอ และ ถูก คนร้ายลัก ไป จำเลย หา ได้ มี เจตนา ทุจริต เบียดบัง เอา อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว เป็น ของ ตน ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147แต่ อย่างใด ไม่ และ จำเลย มิได้ เป็น ผู้ กระทำ ให้ อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ดังกล่าว สูญหาย จึง ไม่ เป็น ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 ตาม ฎีกา ของ โจทก์ ด้วย การ กระทำ ของจำเลย จึง ไม่ เป็น ความผิด ตาม ที่ โจทก์ ฟ้อง
พิพากษา ยืน

Share