คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 640/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อน มารดาของผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และผู้ร้องเป็นผู้คัดค้านคดีหลัง ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายเดียวกัน และผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านคู่ความทั้งสองคดีมิใช่คู่ความเดียวกัน จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ แม้ผู้ร้องจะร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกในคดีหลังในระหว่างที่คดีก่อนยังพิจารณาอยู่ก็ไม่เป็นการฟ้องซ้อน เพราะผู้ร้องมิได้เคยร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ในคดีก่อนมาก่อน
พินัยกรรมของผู้ตายกำหนดตั้งบุตรห้าคนเป็นผู้จัดการมรดกแต่บุตรสองคนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่สามารถจัดการมรดกได้และบุตรอีกคนหนึ่งไม่เต็มใจที่จะจัดการมรดก ดังนี้บุตรอีกสองคนซึ่งไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย ย่อมร้องขอต่อศาล ขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายหลีส้ม แซ่หลีตามพินัยกรรม
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายหลีส้มให้ยกคำคัดค้าน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกาต่อมา
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่านายหลีส้มเป็นบิดาของผู้ร้องทั้งสองผู้คัดค้านเด็กชายหลีท้ามช้อย และเด็กชายไข่แดง นายหลีส้มได้ทำพินัยกรรมให้บุตรชายทั้งห้าคนนี้เป็นผู้รับมรดกและจัดการมรดกในขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอและผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้าน เด็กชายหลีท้ามช้อยและเด็กชายไข่แดงยังไม่บรรลุนิติภาวะ ปรากฏว่านางเกี้ยวมารดาของผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ ๑๗๐/๒๕๑๒หมายเลขแดงที่ ๒๖๔/๒๕๑๒ ของศาลจังหวัดตรัง ซึ่งในคดีนั้นนายหลีท้ามชั้นผู้ร้องที่ ๑ ในคดีนี้ได้ร้องคัดค้าน
ที่ผู้คัดค้านฎีกาว่าคดีนี้ซ้อนหรือซ้ำกับคดีที่นางเกี้ยวร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายเดียวกันนี้นั้น ปรากฏว่าในคดีดังกล่าว (ซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษาแล้วตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๗๔/๒๕๑๔) นางเกี้ยวเป็นผู้ร้องและผู้ร้องที่ ๑ เป็นผู้คัดค้าน คู่ความในทั้งสองคดีจึงไม่ใช่คู่ความเดียวกันศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้หาเป็นฟ้องซ้ำกับคดีดังกล่าวไม่ ทั้งในคดีดังกล่าวนั้นผู้ร้องที่ ๑ ก็เพียงแต่คัดค้านการตั้งนางเกี้ยวเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลล่าง ให้ยกคำร้องของนางเกี้ยว แม้ผู้ร้องจะมาร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกในคดีนี้ในระหว่างที่คดีดังกล่าวยังพิจารณาอยู่ ก็ไม่เป็นการฟ้องซ้อน เพราะผู้ร้องมิได้เคยร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกนายหลีส้มในคดีดังกล่าวมาก่อน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพินัยกรรมของนายหลีส้มมิได้ตั้งนางเกี้ยวเป็นผู้จัดการมรดก และผู้ร้องก็ไม่เคยตกลงกับผู้คัดค้านว่า ให้นางเกี้ยวเป็นผู้จัดการมรดกเพียงคนเดียว ผู้ร้องทั้งสองมีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดก เมื่อเด็กชายหลีท้ามช้อยและเด็กชายไข่แดงยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่สามารถจัดการมรดกได้ อีกทั้งผู้คัดค้านก็ไม่เต็มใจที่จะจัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องทั้งสอง ผู้ร้องทั้งสองจึงชอบที่จะร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๓(๒) ประกอบด้วยมาตรา ๑๗๑๕ ฯลฯ
พิพากษายืน

Share