แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกเป็นเรื่องที่ผู้ร้องในฐานะผู้มีส่วนได้เสียมีอำนาจกระทำเพื่อประโยชน์แก่กองมรดก มิใช่เรื่องการจัดการทรัพย์สิน การฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใดอันเกี่ยวกับทรัพย์ของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย จึงไม่เป็นการกระทำของคนล้มละลายที่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22, 24 และ 25 ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอให้ตั้งนางสาวฐิติพร บุตรของผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านและแก้ไขคำคัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นคนล้มละลาย ขอให้ศาลตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งตั้งนางสาวฐิติพรและนายช้วน ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนางยุพิน ผู้วายชนม์ร่วมกัน กับให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้ร้องและผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องและผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังว่า ผู้ร้องเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันกับผู้ตาย ผู้ตายถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๒ โดยมิได้ทำพินัยกรรมและมิได้ตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ผู้คัดค้านเป็นสามีของผู้ตายอยู่กินด้วยกันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสและไม่มีบุตรที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ และมีที่ดิน ๒ แปลง ที่มีชื่อผู้ตายถือกรรมสิทธิ์และอีก ๑ แปลง มีชื่อผู้ตายและผู้คัดค้านถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นคนล้มละลายจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก เห็นว่า การยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกเป็นเรื่องที่ผู้ร้องในฐานะผู้มีส่วนได้เสียมีอำนาจกระทำเพื่อประโยชน์แก่กองมรดก มิใช่เรื่องการจัดการทรัพย์สิน การฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใดอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย จึงไม่เป็นการกระทำของคนล้มละลายที่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ มาตรา ๒๒, ๒๔ และ ๒๕
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาให้เป็นพับ.