แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วนตามคำสั่งของศาลฎีกาก็ต้องถือว่าฎีกาที่จำเลยยื่นมาไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้วินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่านายจุ่น แซ่เฮ้ง โจทก์ได้รับแต่งตั้งจากข้าหลวงประจำจังหวัดธนบุรีให้เป็นผู้ตรวจตราสอดส่องศาลเจ้าโรงสุกรและนายเล็ก แซ่เจียได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองศาลเจ้าและได้รับมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินคดี
จำเลยเช่าที่ดินส่วนหนึ่งของศาลเจ้าโรงสุกร และในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้ทำหนังสือยอมชำระหนี้แทนผู้เช่าคนก่อนด้วย 62,72 บาท จำเลยค้างค่าเช่าตั้งแต่ พ.ศ. 2478 ถึง 2480 เป็นเงิน 65 บาทรวมเงินที่จำเลยจะต้องชำระเป็นเงิน 127 บาท 73 สตางค์ ครบกำหนดจำเลยไม่ยอมเลิก คงเช่าต่อมาจน พ.ศ. 2485 จำเลยจึงยอมเลิกสัญญาขนออกไป ต่อมา พ.ศ. 2483 จำเลยเข้ามาปลูกกระต๊อบในที่พิพาทจำเลยค้างค่าเช่ารวมทั้งสิ้น 361.73 บาท โจทก์ทวงและบอกเลิกสัญญาจำเลยบิดพริ้วและไม่ยอมออกจึงขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้าโรงสุกร ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป
จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทจำเลยครอบครองในฐานะเจ้าของโดยสงบและเปิดเผยมา 15 ปี จำเลยไม่เคยเช่าจากศาลเจ้าโรงสุกร หรือหากจำเลยเช่าสัญญาเช่าก็ไม่มีผลตามกฎหมายเพราะนายเซียวไคไม่มีอำนาจให้เช่าได้ แม้มีอำนาจให้เช่า สัญญาเช่าก็กำหนด 3 ปี เท่านั้นเมื่อครบกำหนดสัญญาและนับแต่ พ.ศ. 2481 เป็นต้นมา จำเลยครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยเป็นเวลา 12 ปีแล้ว จำเลยจึงได้กรรมสิทธิ์และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่ใช่คู่สัญญากับจำเลย ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้แม้จะอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากนายลักให้ฟ้อง นายลักก็ไม่มีอำนาจมอบอำนาจให้ฟ้องได้ ฯลฯ
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่พิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของศาลเจ้าโรงสุกรจึงให้จำเลยและบริวารรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไป ฯลฯ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์อันมีราคา 10,000 บาท กับเรียกค่าเช่าด้วย 361.73 บาทจำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์ซึ่งจะต้องเสียค่าขึ้นศาลตามทุนทรัพย์ แต่ในฎีกาของจำเลย ๆ เสียค่าขึ้นศาลมาเพียง 15 บาท ยังขาดอีก 273.50 บาท ศาลฎีกาจึงสั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกค่าขึ้นศาลจากจำเลยเพิ่มขึ้นอีก แต่จำเลยแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยหาค่าธรรมเนียมที่ขาดอยู่มาชำระไม่ได้และไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป
จำเลยไม่ชำระค่าธรรมเนียมให้ครบถ้วนตามคำสั่งศาลฎีกาก็ต้องถือว่าฎีกาที่จำเลยยื่นมาไม่เป็นฎีกาที่จะรับไว้วินิจฉัย
พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย