แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หนี้ใดซึ่งต้องทำเปนลายลักษณอักษรการแปลงหนี้เพื่อเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้นต้องทำเปนลายลักษณอักษรด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า ย. เปนหนี้ค่าเช่าสวนแลค่าซื้อสิ่งของต่าง ๆ ของโจทก์รวม ๗๔๕ บาท ย เปนเจ้าหนี้จำเลย ๗๐๐ บาทโดยจำเลยซื้อเชื่อสิ่งของ จำเลยกับ ย. ได้ตกลงกับโจทก์ด้วยปากเปล่าว่าจำเลยจะใช้เงินให้กับโจทก์ จำเลยได้ชำระเงินมาแล้ว ๔๔๒ บาท ๗๐ ส.ต. คงค้างอีก ๒๕๗ บาท ๓๐ สตางค์ ขอให้ศาลบังคับให้ใช้
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าการโอนสิทธิเรียกร้องฤาโอนหนี้ เมื่อไม่ทำเปนหนังสือ ใช้ไม่ได้ ตามประมวลแพ่งมาตรา ๓๐๖ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การโอนหนี้แต่เปนเรื่องการรับรองใช้หนี้แทน
ฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ แต่แก้ข้อกฎหมายว่า ถึงแม้จะฟังเปนจริงว่าโจทก์ไปทวงหนี้จาก ย และ ย บอกให้เอาที่ จำเลย ๆ ตกลงรับจะใช้หนี้ให้โจทก์ก็ดี ก็เปนการแปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ตามประมวลแพ่งมาตรา ๓๕๐ จึงมีปัญหาว่าการแปลงหนี้จะต้องทำเปนหนังสือฤาไม่ เรื่องนี้สืบเนื่องมาจาก ย ลูกหนี้โจทก์โดยเช่าสวนแลกู้หนี้ ซึ่งตามกฎหมายต้องทำเปนหนังสือ เพราะฉนั้นการตกลงระหว่างโจทก์จำเลยก็ชอบที่จะต้องทำเปนหนังสือ แต่การรับรองใช้หนี้นี้ไม่ได้ทำกันเปนหนังสือจึงใช้ไม่ได้ ให้ยกฟ้อง