คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยที่ว่า ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอม เสนอหรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท และที่ว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองความรับผิดอันยอมรับตามสัญญาซึ่งความรับผิดนั้นจะไม่เกิดขึ้นหากปราศจากสัญญานั้น เป็นการป้องกันมิให้ผู้เอาประกันภัยไปตกลงชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น แต่กรณีเป็นฝ่ายผิด จะเอาเงื่อนไขดังกล่าวมาใช้บังคับไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรผู้รับประกันภัยก็จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 78,165 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ประเด็นว่า โจทก์ปฏิบัติผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยในเรื่องเงื่อนไขทั่วไป ข้อ 1.4 เรื่อง การจัดการเรียกร้องฯ1.4.1 “ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอม เสนอ หรือให้สัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทฯ”เรื่องเงื่อนไขบังคับก่อนข้อ 1.9 “บริษัทจะรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยได้ปฏิบัติถูกต้องตามสัญญาประกันภัยและเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ประกันภัยนี้” นอกจากนี้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ข้อ 2.11 เรื่องการยกเว้นทั่วไปยังได้กำหนดไว้อีกว่า “การประกันภัยตามสัญญาข้อ 2.1 ข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจาก 2.11.9 ความรับผิดอันยอมรับตามสัญญาซึ่งความรับผิดนั้นจะไม่เกิดขึ้นหากปราศจากสัญญานั้น” ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจุดประสงค์ของการกำหนดเงื่อนไขตามข้อดังกล่าวขึ้นมานั้น ก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้เอาประกันภัยตกลงชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น แต่สำหรับในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิดดังเช่นคดีนี้นั้น จะเอาเงื่อนไขดังกล่าวมาใช้บังคับไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรผู้รับประกันภัยก็จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

ที่จำเลยฎีกาว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.1 ความรับผิดของบริษัทจำเลยผู้รับประกันที่มีต่อบุคคลภายนอกนั้น มีเฉพาะเพื่อความบาดเจ็บหรือมรณะของบุคคลภายนอก ซึ่งความบาดเจ็บนั้นหมายถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเท่านั้น ดังจะเห็นได้ว่าตามกรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.6 ได้กำหนดไว้ว่า “บริษัทจะใช้ค่ารักษาพยาบาลตามหลักฐานที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไป”ไม่รวมถึงค่าขวัญนั้น เห็นว่าโจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความบาดเจ็บตามสัญญากรมธรรม์ประกันภัยข้อ 2.1 ซึ่งตามตารางจำกัดความรับผิดไม่เกิน 10,000 บาทต่อคน และไม่เกิน 50,000 บาทต่อหนึ่งครั้งซึ่งในการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ โจทก์จ่ายไม่เกินตามที่กำหนดไว้ในตาราง เป็นคนละส่วนกับเงินค่ารักษาพยาบาลตามข้อ 2.6 ที่จำเลยอ้าง ซึ่งโจทก์ได้สละสิทธิไม่ได้เรียกร้องขอเบิกค่ารักษาพยาบาลตามข้อ 2.6 แต่อย่างใดเมื่อโจทก์ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนไปเพื่อความบาดเจ็บหรือมรณะของบุคคลภายนอกไป เนื่องจากอุบัติเหตุอันเกิดจากการใช้รถยนต์ในระหว่างระยะเวลาประกันภัยไปไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในตารางของสัญญาข้อ 2.1จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้เงินจำนวนนั้นให้แก่โจทก์”

พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 2,000 บาทแทนโจทก์

Share