แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ในขณะที่มีการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาท สิทธิของโจทก์มีเพียงตามสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทที่ยังมิได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเท่านั้น บทบัญญัติตามมาตรา 68 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าฯ กำหนดให้สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียน สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าที่ยังมิได้จดทะเบียนดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 152 โจทก์จึงไม่มีสิทธิตามสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยว่าละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า TAIYO แต่เพียงผู้เดียวจนถึงปัจจุบัน บริษัทไทยปันโฮเต็ล จำกัด ซึ่งเป็นลูกค้าของโจทก์สั่งซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าดังกล่าวซึ่งผลิตจากโรงงานของโจทก์จากจำเลย จำเลยตกลงขายและจัดส่งสินค้า ตลอดจนรับชำระค่าสินค้าจากผู้ซื้อไปเรียบร้อยแล้วโดยผู้ซื้อเข้าใจว่าสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าของโจทก์ ต่อมาผู้ซื้อร้องเรียนมายังโจทก์ว่าสินค้าที่ซื้อมาไม่มีมาตรฐานและคุณภาพตามที่โจทก์โฆษณา โจทก์จึงส่งพนักงานไปตรวจสอบสินค้าที่บริษัทดังกล่าวซื้อไป ปรากฏว่าสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มิได้ผลิตโดยโจทก์ แต่เป็นสินค้าปลอมที่จำเลยแอบอ้างว่าเป็นสินค้าของโจทก์ ด้วยการนำตราเครื่องหมายการค้า TAIYO ที่โจทก์ใช้ไปติดบนสินค้าเพื่อลวงให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าเป็นสินค้าของโจทก์ การกระทำของจำเลยดังกล่าวทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์บอกกล่าวทวงถามเรียกค่าเสียหายไปยังจำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน 400,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ ขณะบริษัทไทยปัน โฮลเต็ล จำกัด สั่งซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าของโจทก์ สินค้านั้นหมดจากร้านของจำเลย จำเลยจึงแจ้งให้โจทก์นำสินค้ามาส่งให้ แต่โจทก์กลับนำแต่ตัวเครื่องหมายการค้าของโจทก์มาให้จำเลยโดยแจ้งว่ายังผลิตสินค้าไม่ทัน ให้นำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปติดสินค้าอื่นที่ยังไม่มีเครื่องหมายการค้าก่อนโดยบอกว่ามีคุณภาพเช่นเดียวกัน จำเลยจึงทำตามที่โจทก์แนะนำ แล้วนำสินค้าไปส่งให้บริษัทผู้ซื้อ ซึ่งโจทก์ก็ทราบและไม่ทักท้วง โจทก์จึงไม่ได้รับความเสียหายฟ้องโจทก์ในส่วนค่าเสียหาย 400,000 บาท เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “ในขณะที่มีการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาท สิทธิของโจทก์มีเพียงตามสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าพิพาทที่ยังมิได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าเท่านั้น บทบัญญัติตามมาตรา 68 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 กำหนดให้สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียน สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าที่ยังมิได้จดทะเบียนดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 โจทก์จึงไม่มีสิทธิตามสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวและไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยว่าละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้านั้น อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง