คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6141/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ค่ารถแทรกเตอร์ซึ่งเป็นหนี้เงินจำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยระหว่างเวลาผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ค่ารถแทรกเตอร์ที่ค้างชำระพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยชำระเงินให้โจทก์เกินกว่าราคารถแทรกเตอร์จำเลยไม่ผิดสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 26,020 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยหากไม่ชำระคืนรถแทรกเตอร์แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ต้องคืนรถแทรกเตอร์ให้แก่โจทก์นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ฟังไม่ได้ว่าจำเลยออกเช็คเอกสารหมาย ล.1ถึง ล.3 ชำระหนี้ค่ารถแทรกเตอร์ให้โจทก์ ในปัญหาที่ว่า โจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากเงินที่จำเลยค้างชำระหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อพ้นกำหนดเวลาชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย จ.1จำเลยชำระค่ารถแทรกเตอร์ที่ค้างอยู่อีกหลายครั้งและตัวโจทก์ยืนยันว่า หนี้ถึงกำหนดชำระแล้วจำเลยผิดนัดไม่ชำระเป็นเวลา 1 ปีเศษโจทก์ทวงถามแล้วก็ยังไม่ชำระ จำเลยไม่ได้นำสืบหักล้าง จึงฟังได้ว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224บัญญัติว่า “หนี้เงินนั้น ท่านให้คิดดอกเบี้ยในระหว่างเวลาผิดนัด”เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดนัดไม่ชำระหนี้ค่ารถแทรกเตอร์พิพาทซึ่งเป็นหนี้เงิน จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยแก่โจทก์ตามบทบัญญัติดังกล่าว แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ทวงถามเมื่อใดจำเลยควรเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับตั้งแต่วันฟ้องที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้คิดดอกเบี้ยจากยอดเงินที่ค้างชำระนับตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2525 อันเป็นวันถัดจากวันที่โจทก์อ้างว่าจำเลยชำระหนี้ครั้งสุดท้ายนั้น เห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 26,020 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้อง ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 600 บาท แทนโจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share