แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีอาญา พยานโจทก์ซึ่งจำเลยอ้างร่วมสืบซัดทอดจำเลยอีกคนหนึ่งนั้น ไม่มีกฎหมายห้ามไม่ให้รับฟัง
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษนายกำไลฐานลักทรัพย์ และนายอาทิตย์ฐานรับของโจร
นายกำไรให้การปฏิเสธ นายอาทิตย์ต่อสู้ว่าได้ซื้อสายพานจากนายกำไลจำเลยโดยไม่รู้ว่าเป็นของที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายกำไลจำเลยฐานลักทรัพย์ ส่วนข้อหาสำหรับนายอาทิตย์ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นางสมสินและนายยี่มาเป็นพยานเรื่องนายกำไลขายสายพานให้นายอาทิตย์นั้น ก็โดยนายอาทิตย์นำสืบข้อต่อสู้เป็นการซัดทอดว่า ได้ซื้อมาจากนายกำไลจำเลย แม้โจทก์จะติดใจอ้างเป็นพยานโจทก์อีกด้วย ก็ตกอยู่ในฐานะเสมือนพยานจำเลย ซึ่งตามกฎหมายจะฟังพยานด้วยกันมาลงโทษจำเลยอีกคนหนึ่งไม่ได้ พิพากษาให้ยกฟ้องนายกำไลจำเลยด้วย
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายกำไลจำเลยที่ 1
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ปัญหาว่า จะเชื่อคำของนางสินและนายยี่พยานโจทก์ซึ่งนายอาทิตย์จำเลยอ้างร่วมหรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าไม่มีกฎหมายห้ามรับฟัง แต่ก็ควรฟังด้วยความระมัดระวัง ปรากฏว่าพยานทั้งสองนี้ให้การสมเหตุสมผลตั้งแต่ต้นจนปลาย ข้อเท็จจริงฟังได้ดังฟ้อง พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น