คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

“เคหะ” ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ. 2489 มาตรา 5 นั้น มีความหมายในเบื้องต้นว่า ต้องเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
สิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ถึงประกอบธุระกิจการค้าหรืออุตสาหกรรมด้วย ก็ยังนับว่าเป็น “เคหะ” แต่ถ้าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประกอบธุระกิจการค้าหรืออุตสาหกรรม ซึ่งไม่อยู่ในความหมายของคำว่า “เคหะ” แล้ว แม้จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย ก็ไม่กลับกลายเป็นเคหะขึ้นมาได้
โจทก์เช่าโรงเลื่อยเพื่อเลื่อยไม้จำหน่าย นับว่าเช่าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่ประกอบธุระกิจการค้า หรืออุตสาหกรรมโดยตรง ไม่ต้องด้วยลักษณะของคำว่า “เคหะ” ตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าปี 2489.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า สามีโจทก์และโจทก์ได้เช่าโรงเลื่อย และเครื่องอุปกรณ์พร้อมด้วยที่ดินโรงเรือนจากกรมยุทธโยธาทหารบก ซึ่งจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้ากรม และจำเลยที่ ๒, ๓, เป็นข้าราชการอยู่ในกรม สัญญาเช่าสิ้นสุดอายุวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๘๙ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๙ จำเลยที่ ๔ ได้รับซื้อโรงเลื่อยและเครื่องอุปกรณ์พร้อมทั้งที่ดินโรงเรือนจากกรมยุทธโยธาทหารบก แต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ และจำเลยที่ ๔ ได้ยอมให้โจทก์เช่าต่อไปอีก ๖ เดือน แต่ในเดือนมีนาคม ๒๔๘๙ จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ กลับไม่ยอมให้โจทก์เช่าต่อไป ระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๘๙ ถึงวันที่ ๒๙ เมษาน ๒๔๘๙ เวลากลางวัน จำเลยสมคบกันยึดโรงเลื่อย และเครื่องอุปกรณ์ ปิดใส่กุญแจไว้ แล้วให้จำเลยที่ ๔ ทำการเลื่อยไม้ต่อไปจนบัดนี้ การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ได้ใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินน้อยลง ถึงกับโจทก์หลุดจากการเช่า ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ปี ๒๔๘๙ มาตรา ๑๐, ๑๑, ๑๖, ๑๘,
ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง จำเลยที่ ๔ ยื่นข้อตัดฟ้องของโจทก์หลายประการศาลชั้นต้นงดการไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์เช่าโรงเลื่อยทั้งเครื่องอุปกรณ์เลื่อยพร้อมด้วยที่ดินโรงเรือนเลื่อยไม้จำหน่าย นับว่าเช่าสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่ประกอบธุระกิจการค้า หรืออุตสาหกรรมโดยตรง ไม่ต้องด้วยลักษณะของคำว่า “เคหะ”
ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ. ๒๔๘๙ แม้จะได้ความว่ามีการอยู่อาศัยด้วยก็ดี ก็ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพ ของสิ่งปลูกสร้างให้กลับกลายเป็นเคหะได้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นผิด พิพากษายืน

Share