แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องแล้วฟ้องอีก คดีเรื่องรุกล้ำทางหลวงเปนความผิดครั้งเดียวและเมื่อศาลได้เคยตัดสินให้ยกฟ้องไปครั้งหนึ่งแล้วโจทก์ก็หมดสิทธิที่จะนำคดีนั้นมาฟ้องใหม่อีก คดีที่ฟ้องในทางอาชญาและแพ่งปนกัน เมื่อคดีอาชญาศาลไม่ลงโทษจำเลย ศาลไม่ควรยกปัญหาในคดีแพ่งขึ้นวินิจฉัยถ้าโจทก์มิได้เสียค่าธรรมเนียม
ย่อยาว
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยว่า จำเลยปลูกห้องแถวรุกล้ำทางหลวง ขอให้ลงโทษตาม ม.๓๓๖ ข้อ ๒ และให้รื้อห้องแถว แต่โจทก์ลืมขอหมายเรียกพะยานมาสืบ ศาลล่างทั้ง ๒ จึงตัดสินว่าฏีกาไม่ได้ตาม พ.ร.บ.ฏีกาอุทธรณ์ ฒ.๕ บัดนี้โจทก์นำคดีนั้นมาฟ้องอีกเช่นเดียวกับคดีเดิมดังนี้ จึงมีปัญหาว่า ถ้าจำเลยปลูกห้องแถวรกทางหลวงริง จะได้ชื่อว่าจำเลยทำผิดอยู่เรื่อย ๆ ไปหรือไม่
ศาลเดิมตัดสินยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับว่า ถ้าจำเลยปลูกห้องแถวรกทางหลวงจริง ก็ต้องถือว่าทำผิดอยู่เรื่อย ๆ ไป โจทก์มีอำนาจฟ้องใหม่ได้ จึงให้ศาลเดิมจัดการพิจารณาและพิพากษาคดีไปตามรูปความ
ศาลฏีกาเห็นว่า การกระทำผิดในเรื่องรกทางหลวงเปนการกระทำผิดครั้งเดียว จะฟังว่าจำเลยทำผิดอยู่เรื่อย ๆ ไปไม่ได้ และความผิดที่จำเลยทำนั้น ศาลก็ได้พิพากษายกฟ้องไปครั้งหนึ่งแล้-ว เพราะฉะนั้นโจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ได้อีก อนึ่งคดีนี้โจทก์ว่าความในทางอาชญาและแพ่งปนกันมา เมื่อคดีอาชญาศาลมิได้-ลงโทษจำเลยศาลไม่ควรยกปัญหาในคดีแพ่งขึ้นวินิจฉัย เพราะโจทก์มิได้เสียค่าธรรมเนียม จึงตัดสินกลับศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามศาลเดิม