คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5891/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกคืนเงินค่าจ้างที่ได้จ่ายให้จำเลยเนื่องจากจำเลยผิดสัญญารับจ้างก่อสร้างและขยายถนนให้โจทก์มิใช่ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในการทำงานของจำเลย ซึ่งมีอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 601 เมื่อการฟ้องเรียกคืนเงินค่าจ้างไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องใช้อายุความ 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองว่าจ้างจำเลยให้ขยายและก่อสร้างเพิ่มเติมถนนเป็นค่าจ้างทั้งสิ้น 500,000 บาท โจทก์ทั้งสองได้โอนเงินค่าจ้างจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยเรียบร้อยแล้วปรากฏว่าจำเลยขยายถนนและก่อสร้างไม่เสร็จตามกำหนด สภาพงานไม่เรียบร้อยไม่อาจส่งมอบแก่โจทก์ทั้งสองอย่างถูกต้องตามสัญญาโจทก์ทั้งสองจึงบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยและขอให้จำเลยคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่จำเลยรับเงิน จำเลยเพิกเฉย ดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 63,013 บาท ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 563,013 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยดำเนินการก่อสร้างถนนและทำร่องระบายน้ำกับปรับผิวจราจรจนเสร็จเรียบร้อย โจทก์ทั้งสองรับมอบงานโดยมิได้อิดเอื้อนหรือโต้แย้ง มีเพียงถนนช่วงปลายซอยที่เจ้าของที่ดินไม่ยินยอมและโจทก์ทั้งสองไม่สามารถเจรจาได้ จำเลยจ่ายเงินจำนวน 200,000 บาท ให้แก่เจ้าของที่ดินเป็นค่าทดแทนที่ดินส่วนเงินจำนวน 300,000 บาท เป็นค่าจ้างเหมาปรับผิวจราจร การบอกเลิกสัญญาของโจทก์ไม่ชอบ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินคืน ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 287,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม2530 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ทั้งสองนำคดีมาฟ้องบังคับให้จำเลยรับผิดถึงความชำรุดบกพร่องของงานเกินกว่า 1 ปี คดีของโจทก์ทั้งสองจึงขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 598 ประกอบมาตรา 601 นั้นว่าโจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกคืนเงินค่าจ้างที่ได้จ่ายให้จำเลยเนื่องจากจำเลยผิดสัญญารับจ้างก่อสร้างและขยายถนนให้โจทก์ มิใช่ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในการทำงานของจำเลย ซึ่งมีอายุความ 1 ปี ดังที่จำเลยฎีกา และกรณีที่โจทก์ทั้งสองฟ้องเรียกคืนเงินค่าจ้างจากจำเลยนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เดิม แต่โจทก์ฟ้องคดีนี้ยังไม่เกิน 10 ปี ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share