คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อย่างไรไม่เรียกว่าเป็นสัญญาที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน เข้าทำสัญญากับพวกราษฎรรับจ้างทำฎีกาขอลดหย่อนค่านาโดยคิดเอาค่าจ้างฉะเพาะปีที่ได้ลดค่านาจากผู้ที่ได้ส่วนลด ส่วนลดสำหรับในปีต่อไปก็ให้เป็นของราษฎรเจ้าของนา ไม่เป็นสัญญาที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน กรณีที่กำหนดเบี้ยปรับไว้สูงเกินส่วนประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.162 วิธีสั่งให้เสียค่าธรรมเนียมมากมาย ในกรณีที่จำเลยหลายคนต่างรับผิดต่อโจทก์หมายเหตุ จะสั่งแยกไป+ชั้นนี้ไม่ได้ เพราะมีค่าธรรมเนียมหลายอย่าง (+มีลักษณะร่วมกัน)

ย่อยาว

คดีนี้ทางพิจารณาได้ความว่า โจทก์ทราบว่าชาวนารวม ๓ ตำบลในจังหวัดลำพูนต้องการทำฎีกาขอลดค่านา โจทก์จึงไปหา ธ.กำนันขอรับจ้างทำฎีกาให้ ธ.ช่วยจัดการให้ลูกบ้านทั้ง ๓ ตำบลนั้นทำสัญญาจ้างโจทก์ โจทก์จึงทำสัญญาขึ้นฉะบับหนึ่งตามข้อสัญญามีว่าโจทก์จะได้รับค่าจ้างฉะเพาะปีที่จำเลยได้ลดจากผู้ที่ได้ส่วนลดผู้ใดที่ไม่ได้ส่วนลดก็ไม่ต้องเสีย สำหรับส่วนลดในปีต่อไปก็เป็นของจำเลย ราษฎรในตำบลเหล่านั้นจึงมาลงชื่อในสัญญาเพื่อขอลดค่านารวมทั้งจำเลย ๑๐๐๐ คน เศษ โจทก์ได้ทำฎีกาขึ้นทูลเกล้าถวายฎีกาขอลดค่านาแลได้มีพระบรมราชวินิจฉัยสั่งฎีกาฉะบับนี้โดยโปรดเกล้าให้ลดค่านาในตำบลที่จำเลยอยู่ละ ๒๐ สตางค์ จำเลยไม่ให้ค่าจ้าง โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าจ้างตามสัญญากับค่าปรับฐานผิดสัญญาคนละ ๑๖๐ บาท
ศาลเดิมให้จำเลยใช้ค่าจ้างตามจำนวนนาไร่ละ ๒๐ สตางค์กับให้ปรับจำเลยคนละ ๕๐ บาท
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า เรื่องนี้ทางราชการดำริจะลดอยู่ก่อนแล้ว จำเลยได้ทำ-สัญญาขึ้นโดยรู้ว่าทางราชการได้จัดการขอลดค่านาตำบลเหล่านี้ จึงพลอยผสมเข้ารับจ้างราษฎรทำฎีกาขึ้น เป็นการทำสัญญาเอาเปรียบราษฎร ผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลฎีกาเห็นวาตามข้อความในพระบรมราชวินิจฉัยต้องส่งว่าที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแก่ผู้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกานี้ด้วยเหตุพิเศษ แม้จะเป็นการประจวบกับที่ทางราชการสั่งให้มณฑลพายัพสอบสวนเรื่องราวกำหนดอัตราเก็บเงินค่านาก็ไม่ใช่เรื่องที่จะลดค่านา ๓ ตำบลให้เป็นพิเศษ แลผลจะเป็นประการใดก็ยังมิได้วินิจฉัย ทั้งโจทก์หรือจำเลยก็ไม่ทราบว่ารัฐบาลดำริห์จะลดค่านา ๓ ตำบลนี้ให้ แลเห็นว่าตามข้อสัญญาแม้จำนวนจะมีมากอาจจะได้ค่าจ้างมากก็ตาม การลงทุนลงแรงก็มีอยู่มากแลผลที่ได้รับในส่วนน้อยก็มีอยู่ จะว่าได้เปรียบเสียเปรียบแก่กันหรือไม่ก็ไม่สำคัญ จึงเห็นว่าไม่เป็นการผิดต่อศีลธรรมอันดี จึงพิพากษายืนตามศาลเดิมแต่ให้แก้ค่าปรับเป็นคนละ ๒๕ บาทแลให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมค่าทนายแทนโจทก์ รวม ๑๐๐ บาท

Share