คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5858/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา คำร้องขอให้รับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรฎีกาได้และคำฟ้องฎีกาของจำเลย ที่ บ. ทนายเป็นผู้ยื่นคำร้องและฎีกาแทนจำเลย แต่ตามใบแต่งทนายความที่จำเลยแต่งให้ บ. ทนายความของจำเลยไม่ได้ระบุให้มีอำนาจใช้สิทธิในการฎีกา บ. ทนายความของจำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใช้สิทธิในการฎีกาคดีนี้แทนจำเลยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 62 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 คำร้องขอขยายระยะเวลา คำร้องขอให้รับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรฎีกาได้ และคำฟ้องฎีกา จึงเป็นคำร้องและคำฟ้องไม่ชอบ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาฎีกาและมีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกาและมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยมา ก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ป.อ. มาตรา 91
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อ. มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 1 เดือน รวม 6 กระทง เป็นจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 20 วัน รวม 6 กระทง เป็นจำคุก 120 วัน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 60 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกาฉบับลงวันที่ 14 ธันวาคม 2547 และวันที่ 13 มกราคม 2548 คำร้องขอให้รับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรฎีกาได้ฉบับลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548 และคำฟ้องฎีกาของจำเลยลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548 ปรากฏว่านายบัญชา ทนายความของจำเลยลงชื่อเป็นผู้ยื่นคำร้องและผู้ฎีกา แต่ตามใบแต่งทนายความลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2544 ที่จำเลยแต่งให้นายบัญชา เป็นทนายความของจำเลยในคดีเรื่องนี้ ปรากฏว่าได้ระบุให้นายบัญชา มีอำนาจเพียงว่าต่างแก้ต่างในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เท่านั้น ไม่ได้ระบุให้มีอำนาจใช้สิทธิในการฎีกา นายบัญชา ทนายความของจำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใช้สิทธิในการฎีกาคดีนี้แทนจำเลยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 62 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 คำร้องขอขยายระยะเวลา คำร้องขอให้รับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรฎีกาได้ และคำฟ้องฎีกา จึงเป็นคำร้องและคำฟ้องที่ไม่ชอบ แม้ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้ขยายระยะเวลาฎีกา ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาคดีนี้ในศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา และมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยมา ก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของจำเลย.

Share