คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5851/2546

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยที่ยื่นต่อศาลครั้งที่ 3 มีข้ออ้างและคำขอเช่นเดียวกับที่จำเลยยื่นในครั้งแรกและครั้งที่ 2 ซึ่งคำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าวศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง แม้จะเป็นการยกคำร้องเพราะจำเลยไม่ได้นำพยานมาสืบก็ถือว่าเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นในเรื่องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นแล้ว การที่จำเลยยื่นคำร้องเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วอันเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 วรรคหนึ่ง
การดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นไต่สวนอนาถาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคท้าย จึงไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาดังกล่าว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 1791 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่ 25ตารางวา และส่งมอบที่ดินให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาทของโจทก์อีกต่อไป กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายเดือนละ 500บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองและบริวารจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดินพิพาท

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองมิได้นำพยานเข้าสืบให้เห็นข้อเท็จจริงตามคำร้องจึงไม่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนยากจนไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมศาลได้ ให้ยกคำร้องหากจำเลยทั้งสองประสงค์จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป ให้นำค่าขึ้นศาลมาชำระภายใน 15 วัน

จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างอนาถาเป็นครั้งที่ 2 ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนแต่จำเลยทั้งสองไม่ไปศาลตามนัด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้นำพยานมาสืบให้ได้ความตามคำร้องจึงให้ยกคำร้อง หากจำเลยทั้งสองประสงค์จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป ให้นำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 15 วัน

จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาอีกเป็นครั้งที่ 3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสอง 2 ครั้งแล้ว จำเลยทั้งสองจะขอใหม่ครั้งที่ 3 ไม่ได้ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ให้ยกคำร้อง และหากจำเลยทั้งสองไม่นำค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2545 ให้เจ้าหน้าที่เสนอสำนวนต่อศาลเพื่อพิจารณาสั่ง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า การที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาอีกเป็นฉบับที่ 3 โดยมีข้ออ้างและคำขอเช่นเดียวกับคำร้อง 2 ฉบับก่อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 วรรคหนึ่ง ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสอง

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถารวม 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2543 ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี 3 ครั้ง อ้างว่าขอเวลาหาเงินมาชำระค่าธรรมเนียมศาล ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ ต่อมาจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอีกเป็นครั้งที่ 4 อ้างว่าทนายความติดธุระศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและมีคำสั่งให้ยกคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาอีกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2544 ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง แต่จำเลยทั้งสองไม่ไปตามนัด ศาลชั้นต้นจึงให้ยกคำร้องดังกล่าว จำเลยทั้งสองมายื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2545โดยอ้างว่าจำเลยทั้งสองยากจน ไม่สามารถหาเงินมาชำระค่าธรรมเนียมศาลได้เช่นเดียวกับที่จำเลยทั้งสองอ้างในคำร้องครั้งแรกและครั้งที่ 2 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า การที่จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาครั้งที่ 3ดังกล่าว เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำหรือไม่ เห็นว่า คำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสองที่ยื่นต่อศาลครั้งที่ 3 มีข้ออ้างและคำขอเช่นเดียวกับที่จำเลยทั้งสองยื่นในครั้งแรกและครั้งที่ 2 ซึ่งคำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง แม้จะเป็นการยกคำร้องเพราะจำเลยทั้งสองไม่ได้นำพยานมาสืบก็ถือว่าเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นในเรื่องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถานั้นแล้ว การที่จำเลยทั้งสองมายื่นคำร้องเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกย่อมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วอันเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144วรรคหนึ่ง ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง การดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นไต่สวนอนาถาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 149 วรรคท้าย จึงให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาที่เสียมา 200 บาท แก่จำเลยทั้งสอง”

พิพากษายืน ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแก่จำเลยทั้งสอง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกนั้นให้เป็นพับ หากจำเลยทั้งสองประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้

Share