แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องเฉพาะฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุกดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้ เพราะเป็นการลงโทษในข้อที่ศาลไม่รับไว้พิจารณา
ในเรื่องบุกรุกนั้นการที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่นั้น มิใช่เป็นเหตุแสดงว่ากระทำโดยสุจริต
เข้าไปรื้อเรือนซึ่งมีการโต้เถียงกรรมสิทธิ์กันอยู่และเขาเป็นฝ่ายครอบครองเรือนอยู่นั้นถือว่าเป็นการกระทำโดยบังอาจ ย่อมมีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 328
ในเรื่องต้องหาว่าบุกรุกที่ดินนั้น การที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์อยู่นั้นมิใช่เป็นเหตุแสดงความสุจริตของจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรวม 23 คน ได้บังอาจมีอาวุธบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานที่โจทก์ครอบครองโดยไม่มีอำนาจแล้วรื้อเรือน ยุ้งข้าวและเพิงต่อจากเรือน โจทก์ห้ามปรามไม่เชื่อฟัง ทำให้โจทก์เสียหายและจำเลยได้เจตนาทุจริตลักทรัพย์เหล่านั้นไป ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324, 288, 293, 329
ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีมีมูลเฉพาะตัวนายผาดจำเลยผู้เดียวและเฉพาะข้อหาฐานทำให้เสียทรัพย์กับบุกรุก
จำเลยต่อสู้ว่าเรือนและเพิงเป็นของจำเลย นางหล่ำขายที่ดินส่วนของนางหล่ำให้โจทก์และบอกให้จำเลยรื้อเรือนและยุ้งข้าวรายนี้ไป
ศาลชั้นต้นตัดสินว่า จำเลยผิดตาม มาตรา 328, 329, 288 และ 293 ให้จำคุก 1 ปีตามมาตรา 293 ซึ่งเป็นบทหนัก
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยเห็นว่า ข้อหาฐานลักทรัพย์ศาลชั้นต้นสั่งไม่มีมูลแล้ว จะกลับมาลงโทษจำเลยไม่ชอบ ส่วนข้อหาฐานบุกรุกนั้นเห็นว่า การรื้อเรือนในที่ดินนางหล่ำและโจทก์โดยนางหล่ำให้รื้อ ซึ่งโจทก์มิได้อยู่ในเรือนหลังนั้นทั้งโจทก์จำเลยและนางหล่ำก็โต้เถียงกรรมสิทธิ์กันอยู่ย่อมแสดงว่าได้กระทำไปโดยสุจริตไม่มีผิดให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อหาฐานลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีไม่มีมูลแล้ว แต่กลับมาพิพากษาลงโทษในฐานนี้ไม่ชอบ เพราะเป็นการลงโทษในข้อที่ศาลไม่รับพิจารณา ส่วนในฐานบุกรุกได้ความว่าเดิมที่ดินซึ่งปลูกเรือนรายนี้มีชื่อนางหล่ำและนางช้อยโจทก์ ต่อมานางหล่ำฟ้องนางช้อยขอแยกโฉนด แต่ได้ยอมความกันในศาล โดยนางหล่ำยอมขายส่วนของตนให้นางช้อยส่วนเรือนและยุ้งข้าวนางหล่ำแถลงต่อศาลว่าจะดำเนินคดีอีกส่วนหนึ่ง ต่อมาอีก 4 วัน จำเลยได้นำพวกไปรื้อเรือนและยุ้งข้าว และปรากฎว่าจำเลยและนางหล่ำได้ออกจากที่รายนี้ไปนานแล้ว จำเลยก็ทราบอยู่ว่าเรือนจะต้องเป็นความกันต่อไป จำเลยยังขืนไปรื้อทั้งที่โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองได้ห้ามปรามแล้วดังนี้แสดงให้เห็นถึงเจตนาบังอาจของจำเลยข้อที่ยังโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่นั้นหาใช่เหตุแสดงความสุจริตไม่ จำเลยมีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 328 ให้จำคุก 3 เดือน