คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5645/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระค่าเช่ารถขุดดินให้แก่โจทก์ร่วม โดยส่งมอบเช็คพิพาทให้ อ. พนักงานของโจทก์ร่วมในทันทีที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาท แม้จำเลยจะเพียงแต่ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทก็ตาม แต่จำนวนเงินที่ลงในเช็คพิพาทและรายการวัน เดือน ปี ที่ออกเช็คจำเลยหาจำต้องเป็นผู้เขียนลงไว้ในเช็คพิพาทด้วยลายมือของจำเลยเองไม่ จำเลยอาจให้บุคคลอื่นเขียนหรือพิมพ์ข้อความดังกล่าวให้ก็ได้ หากข้อความถูกต้องตรงกับเจตนาของจำเลยในการออกเช็คพิพาทก็ถือว่าเป็นการออกเช็คที่สมบูรณ์แล้ว เมื่อ อ. รับเช็คพิพาทจากจำเลยแล้วกรอกจำนวนเงินและวัน เดือน ปี ที่ออกเช็คต่อหน้าจำเลยโดยความยินยอมของจำเลยในทันทีที่รับมอบเช็คพิพาท ในกรณีนี้ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็คพิพาท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา บริษัทกรุงไทยแทรคเตอร์ จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔ (๑) (๓) จำคุก ๓ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระค่าเช่ารถขุดดินให้แก่โจทก์ร่วม จำเลยส่งมอบเช็คพิพาทให้นายอมรศักดิ์ ห่วงรัก พนักงานของโจทก์ร่วม นายอมรศักดิ์กรอกจำนวนเงินและวัน เดือน ปี ที่ออกเช็คลงในเช็คพิพาทต่อหน้าจำเลยในขณะรับมอบเช็คพิพาท เมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนดใช้เงิน โจทก์ร่วมนำไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระค่าเช่ารถขุดดินให้แก่โจทก์ร่วม โดยส่งมอบเช็คพิพาทให้นายอมรศักดิ์พนักงานของโจทก์ร่วมในทันทีที่จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาท ซึ่งเมื่อนายอมรศักดิ์รับเช็คพิพาทจากจำเลยแล้วได้กรอกจำนวนเงินและวัน เดือน ปี ที่ออกเช็คลงในเช็คพิพาทต่อหน้าจำเลยและโดยความยินยอมของจำเลยในทันทีที่รับมอบเช็คพิพาท จำนวนเงินและวัน เดือน ปี ที่ออกเช็คซึ่งนายอมรศักดิ์กรอกลงในเช็คพิพาทต่อหน้าจำเลยและโดยความยินยอมของจำเลยนั้นก็ตรงกับข้อตกลงในหนังสือสัญญาเช่าที่จำเลยทำกับโจทก์ร่วมตามสัญญาเช่าเอกสารหมาย จ. ๒ แม้จำเลยจะเพียงแต่ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทก็ตาม แต่จำนวนเงินที่ลงในเช็คพิพาทและรายการวัน เดือน ปี ที่ออกเช็คจำเลยหาจำต้องเป็นผู้เขียนลงไว้ในเช็คพิพาทด้วยลายมือของจำเลยเองไม่ จำเลยอาจให้บุคคลอื่นเขียนหรือพิมพ์ข้อความดังกล่าวให้ก็ได้ หากข้อความถูกต้องตรงกับเจตนาของจำเลยในการออกเช็คพิพาทก็ถือว่าเป็นการออกเช็คที่สมบูรณ์แล้ว ซึ่งในทางธุรกิจการค้าก็มีการปฏิบัติเหมือนการกระทำดังจำเลยเช่นกัน ที่ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คอาจลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คที่พนักงานที่เกี่ยวข้องเสนอรายละเอียดในการออกเช็คมาพร้อมกับเช็คที่เขียนหรือพิมพ์รายการวัน เดือน ปี และจำนวนเงินที่ลงในเช็คครบถ้วนแล้วเพื่อให้ผู้มีอำนาจลงลายมือสั่งจ่ายในเช็คนั้นก็เป็นการออกเช็คที่สมบูรณ์ ดังนั้น ในกรณีเช่นนี้ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็คพิพาทแล้ว อีกทั้งเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยย่อมทราบได้ในขณะออกเช็คพิพาทที่สมบูรณ์นั้นโดยทันทีว่าจะให้มีการใช้เงินตามเช็คในวันใด ซึ่งในวันนั้นจำเลยผู้ออกเช็คพิพาทจะต้องเตรียมเงินไว้ในบัญชีที่ธนาคารอันจะพึงจ่ายเงินตามเช็คพิพาทนั้นได้ ต่อมาเมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนดใช้เงิน แต่เงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่ายเงินตามเช็คพิพาทจนธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ฟังว่า จำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงวัน เดือน ปี ที่ออกเช็ค ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คและพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share