คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร ต้องได้ความว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายการดำเนินคดีเรื่องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูของบุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จะต้องดำเนินคดีขอให้จำเลยรับเด็กเป็นบุตรเสียก่อน

ย่อยาว

ได้ความว่าโจทก์ จำเลยแต่งงานกันโดยมิได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายระหว่างอยู่ด้วยกันได้เกิดบุตรคนหนึ่งอายุ ๗ เดือน บัดนี้โจทก์ฟ้องว่าไม่สมัครใจอยู่กับจำเลย เพราะจำเลยละทิ้งโจทก์มา ๑ ปีแล้ว จึงฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร จนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าบิดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรตามมาตรา ๑๕๓๖ จึงพิพากษาให้จ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตร
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการเรียกค่าเลี้ยงดูตามมาตรา ๑๕๓๖ จะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องเป็นไปตามมาตรา ๑๕๒๖ คดีนี้โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องเรียกค่าเลี้ยง จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์แต่ผู้พิพากษานายหนึ่งมีความเห้นแย้งว่าควรพิพากษานายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าควรพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยศาลอุทธรณ์ว่า ความในมาตรา ๑๕๓๖ หมายถึงบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และจะเห็นได้ว่ามาตรา ๑๕๒๕ บัญญัติว่า เด็กเกิดจากหญิงที่มิใช่มีการสมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น ซึ่งแสดงว่าไม่ใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของชาย เรื่องนี้โจทก์มิได้ดำเนินคดีขอให้จำเลยรับเด็กเป็นบุตรเสียก่อนมาตรา ๑๕๒๙ ฉะนั้นเมื่อปรากฏว่า เก็กตามที่โจทก์ฟ้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูยังมิได้เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของจำเลย โจทก์ก็ชะนะคดีจำเลยไม่ได้ จึงพิพากษายืน

Share