แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กู้หนี้ท่านไปก่อนใช้ประมวลแพ่งฯ โดยทำเอกสารและพิมพ์ลายมือให้ไว้เป็นสำคัญ ไม่ต้องมีพะยานรับรองลายมือ สัญญากู้ก็สมบูรณ์ ประมวลแพ่งฯ บรรพ 1-2 พ.ศ. 2466 นั้นได้ยกเลิกเสียสิ้นแล้วโดยประกาศ พ.ศ.2468
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามสัญญากู้ลงวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ ซึ่ง จำเลยได้พิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมืให้ไว้โดยไม่มีพะยานรับรอง
ศาลล่างทั้ง ๒ตัดสินให้ยกฟ้องโจทก์ โดยฟังว่าสัญญาใช้ไม่ได้เพราะทำกันไม่ถูกต้องตามประมวลแพ่งฯบรรพ ๑-๒ พ.ศ.๒๔๖๖ ม.๑๕ และ๑๐๙
โจทก์ฎีกาว่า จะนำประมวลแพ่งฯ ๑-๒ พ.ศ.๒๔๖๖ มาตรา ๑๕ – ๑๐๙ มาบังคับคดีนี้ไม่ได้ เพราะได้ยกเลิกเสียหมดแล้ว และให้ใช้บทที่ชำระใหม่แทนตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๘ ซึ่งสัญญากู้นี้ได้ทำกันก่อนที่ประกาศใช้นี้
ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาโจทก์เป็นปัญหากฎหมายประมวลแพ่งฯบรรพ ๑-๒ พ.ศ.๒๔๖๖ ที่ศาลล่างอ้างนั้นยังไม่ใช้เป็นกฎหมาย และได้เลื่อนเวลามาใช้จนถึงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๘ ก็ได้มีประกาศยกเลิกประมวลแพ่งฯ ฉะบับที่กล่าวนี้เสียสิ้นแล้ว ดังนี้จะยกเอามาบังคับคดีโจทก์ไม่ได้ เมื่อสัญญากู้ทำกันก่อนใช้ประมวลแพ่งฯ พ.ศ.๒๔๖๘ โดยผู้กู้ได้พิมพ์ลายมือในสัญญาไม่มีพะยานรับรอง ๒ นายก็ดี สัญญากู้นั้นก็ใช้ได้ตามกฎหมายลักษณกู้หนี้บทที่ ๙ ม. ๑ จึงตัดสินให้จำเลยใช้ต้นเงินแก่โจทก์๒๕๐.๕๐ บาท กับดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่ง