คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน ที่ปลูกศาลจ้าว วิธีพิจารณาความแพ่ง อำนาจฟ้อง เจ้าของที่ดินยอมให้ผู้อื่นปลูกสร้างศาลจ้าวลงในที่ดินของตนได้ 6-7 ปี และยอมให้ผู้อื่นเข้าไปทำการเคารพได้แต่มิได้จดทะเบียนเป็นที่กุศลสถานนั้นไม่ทำให้เจ้าของที่ดินเสื่อมสิทธิหรือสูญสิ้นกรรมสิทธิในที่ดินและเจ้าของที่ดินมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้จัดการศาลเจ้านั้นได้

ย่อยาว

เดิมที่พิพาทเป็นที่วังในกรมหลวงชุมพร ฯ ต่อมาบรรดาผู้ที่เคารพนับถือในกรมหลวงชุมพรได้ขอที่นี้จากเจ้าจอมมารดาโหมดและพระองค์เจ้าอาทิตย์ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่จัดการสร้างสถานที่ไว้พระรูปในกรมหลวงชุมพรกับรูปเจ้าแม่ทะเล แลเรียกสถานที่นี้กันว่าศาลเจ้าแต่สถานที่นี้หาได้จดทะเบียนเป็นที่กุศลสถานไม่ จำเลยได้เป็นกรรมการจัดการศาลเจ้านี้และอยู่มาในศาลเจ้าประมาณ ๖-๗ ปี บัดนี้ที่ซึ่งปลูกสร้างศาลเจ้านั้นตกได้ แก่โจทก์ทางมฤดก โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยถือว่าศาลเจ้ารายพิพาทเป็นกุศลสถานและเป็นสาธารณะสถานเพราะผู้ที่นับถือเข้าไปเคารพได้แลบางคราวก็มีงิ้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่นั้น ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยก็ไม่มีพะยานมาแสดงว่าเจ้าของที่ได้สละกรรมสิทธิให้ที่พิพาทเป็นกุศลสถานหรือที่สาธารณะ กรรมการจึงเห็นว่าแม้จำเลยจะได้เรียไรเงินมาสร้างด้วยความเลื่อมใสศรัทธาก็ไม่ทำให้เจ้าของเดิมเสื่อมสิทธิหรือสูญสิ้นแห่งกรรมสิทธิในทีนั้น จึงตัดสินยืนตามศาลล่างให้ขับไล่จำเลย

Share