คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎหมายมีเจตนารมณ์ที่จะป้องกันมิให้ที่ดินซึ่งอยู่ชิดแนวเขตที่ดินนั้นพังลงตามธรรมชาติ เนื่องจากมีการขุดดินใกล้แนวเขตที่ดินจนเกินไป จึงได้วางเกณฑ์กำหนดไว้ว่าการขุดคูหรือร่องน้ำจะทำใกล้แนวเขตที่ดินกว่าครึ่งหนึ่งแห่งส่วนลึกของคูหรือร่องนั้นไม่ได้ ในการวัดระยะซึ่งกฎหมายกำหนดไว้เพื่อป้องกันที่ดินพังทลาย จึงต้องวัดจากริมคันนาร่วมออกไปถึงแนวลำรางที่จำเลยขุด การที่จำเลยขุดลำรางชิดกับคันนาร่วม ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่ในคันนาร่วม ในฐานะที่คันนาร่วมเป็นแนวเขตที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขุดดินลำรางชิดกับที่ดินของโจทก์กว้างประมาณ 2 ศอก ลึก 1 ศอกเศษ ยาวประมรณ 16 วา โดยขุดชิดและยาวไปตามคันนาของโจทก์ เป็นเหตุให้ที่ดินของโจทก์พังลงไปในลำรางที่จำเลยขุดไว้ เป็นการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 และ 1343 ขอให้บังคับให้จำเลยทำเขื่อนกั้นแล้วเอาดินมากลบให้แน่นตามแนวเขตที่ดินของโจทก์ที่จำเลยขุด หากจำเลยไม่ทำ ก็บังคับให้จำเลยมอบเงิน 5,000 บาทให้โจทก์ทำเองและให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายความแทนโจทก์

จำเลยให้การว่า ลำรางที่โจทก์ฟ้องมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว จำเลยไม่ได้ขุดขึ้นใหม่เป็นแต่ลอกลำรางซึ่งตื้นเขินให้ลึกเท่ากับที่มีมาแต่เดิม เพื่อกักน้ำไว้ใช้ในการทำสวน และไม่ได้ขุดชิดคันนาของโจทก์ อันจะทำให้ที่ดินของโจทก์พังลงแต่ประการใด คันนาดังกล่าวเป็นคันนาแบ่งเขตระหว่างที่ดินของโจทก์กับของนางชม เพ่งงาม มารดาจำเลยจำเลยขุดลอกคูโดยได้รับความยินยอมจากนางชม จึงไม่ละเมิดต่อโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยขุดคูลึกราว 1 คืบ และห่างจากจุดกลางคันนาร่วมเกินกว่า 1 คืน จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 1342 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งคันนาร่วมยังไม่มีรอยพังทลายโจทก์ไม่ได้รับความเสียหาย พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ และให้โจทก์เสียค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความไว้ 100 บาท

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 นั้น การวัดระยะจากแนวเขตถึงปากคูต้องวัดจากริมคันนาด้านที่ขุดมิใช่วัดจากกลางคันนา การที่จำเลยขุดริมคันนาร่วมโดยมิได้เว้นระยะไว้เลย จึงขัดต่อมาตรา 1342 วรรค 2 จำเลยต้องรับผิดสำหรับการเสียหายนั้น พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยถมคูที่จำเลยขุดเฉพาะส่วนที่เกินกว่าอัตราที่มาตรา 1342 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อนุญาตไว้ หากจำเลยไม่กระทำดังกล่าวก็ให้จำเลยวางเงิน 1,000 บาท เพื่อให้โจทก์จัดการแทน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายทั้งสองศาลไว้ 150 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อพิเคราะห์บทบัญญัติมาตรา 1342 และ 1343 แล้ว เห็นได้ว่า กฎหมายมีเจตนารมณ์ที่จะป้องกันมิให้ที่ดินซึ่งอยู่ชิดแนวเขตที่ดินนั้นพังลงตามธรรมชาติ เนื่องจากมีการขุดดินใกล้แนวเขตที่ดินจนเกินไป กฎหมายจึงได้วางเกณฑ์กำหนดไว้ว่าการขุดคูหรือร่องน้ำจะทำใกล้แนวเขตที่ดินกว่าครึ่งหนึ่งแห่งส่วนลึกของคูหรือร่องนั้นไม่ได้

ในกรณีนี้ เนื่องจากโจทก์และมารดาจำเลยตกลงให้ถือเอาคันนาร่วมทั้งคันนาเป็นแนวเขตที่ดินร่วมกัน ย่อมเห็นได้ในเบื้องต้นว่าต่างฝ่ายต่างมีสิทธิร่วมกันใช้คันนานั้นในการทำนาด้วย ในการวัดระยะซึ่งกฎหมายกำหนดไว้เพื่อป้องกันที่ดินพังทลายอันจะพึงเกิดขึ้นตามธรรมชาตินั้น จึงต้องวัดจากริมคันนาร่วมในนาด้านของมารดาจำเลยออกไปถึงแนวลำรางที่จำเลยขุด ตรงกันข้าม ถ้าอนุญาตให้วัดจากจุดกลางคันนาร่วมดังเช่นที่จำเลยฎีกาก็ดี ดังเช่นในกรณีกำหนดแนวเขตที่ดินโดยทั่วไปก็ดี การขุดลำรางย่อมขุดได้ชิดกับคันนาร่วม หรืออาจจะล้ำเข้าไปในคันนาร่วมด้วยได้ ถ้าทำเช่นนั้นได้ย่อมมีผลทำให้คันนานั้นเองพังทลายไปในที่สุดเพราะไม่มีพื้นดินที่ว่างซึ่งเว้นไว้เพื่อความอยู่มั่นคงแห่งคันนาร่วมนั้น คันนาร่วมนั้นย่อมจะเป็นแนวเขตที่ดินอยู่ตลอดไปดังที่โจทก์และมารดาจำเลยตกลงกันแต่เดิมไม่ได้เพราะฉะนั้นในการที่จำเลยขุดลำรางลึก 1 คืบในที่นาของมารดาจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342 จำเลยจะต้องเว้นที่ว่างระหว่างลำรางที่ขุดกับคันนาร่วมด้านที่นาของมารดาจำเลยไว้ไม่น้อยกว่าครึ่งคืบ แต่ตามข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันนั้น จำเลยขุดลำรางชิดกับคันนาร่วมเลยทีเดียว แม้จำเลยจะอ้างว่าคันนาร่วมไม่ได้พังทลายลงแต่อย่างไร ก็จะถือเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้ การขุดลำรางของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่ในคันนาร่วมในฐานะคันนาร่วมเป็นแนวเขตที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1342แล้ว คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบด้วยเหตุผลและต้องด้วยเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังที่ศาลฎีกาได้เคยวินิจฉัยไว้แล้วในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2493 ระหว่างนายบ๊ะ สะและน้อย โจทก์ กับนายอาดับ สะและน้อยจำเลย ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share