คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521มีได้ 2 กรณี คือ กรณีแรกเป็นการทำละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงตามมาตรา 24 ได้แก่ การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ระบุไว้ในมาตรา (1) หรือ (2) คือ การกระทำซ้ำหรือดัดแปลงงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือการนำออกโฆษณา ซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 13 กรณีที่สอง เป็นกรณีที่กฎหมายให้ถือว่าเป็นการละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตามมาตรา 27 ได้แก่การกระทำบางอย่างที่มิใช่การทำละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรง แต่เป็นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 27(1) ถึง (4)แก่งานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงอีกต่อหนึ่ง ในกรณีเช่นนี้จึงต้องปรากฏว่าผู้กระทำรู้อยู่แล้วว่างานนั้นทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัดมีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 3 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนสามัญ มีจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ และจำเลยที่ 5 เป็นหุ้นส่วน โจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในหนังสือคู่มือครูคณิตศาสตร์ ช่างอุตสาหกรรม 1, 2 และ 3 จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ในหนังสือดังกล่าวโดยทำซ้ำและดัดแปลงบางส่วนแล้วจัดพิมพ์เป็นหนังสือกุญแจคณิตศาสตร์อุตสาหกรรม 1, 2 และ 3รวม 2 เล่ม ออกจำหน่ายเพื่อประโยชน์การค้าของจำเลยทั้งห้าโดยมิได้รับอนุญาตจากโจทก์การกระทำของจำเลยทั้งห้าทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3,000,000 บาท แต่โจทก์ติดใจเรียกค่าเสียหายเพียง 500,000 บาท ขอให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยจะเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระให้โจทก์เสร็จและห้ามมิให้จำเลยทั้งห้าจัดพิมพ์หนังสือกุญแจคณิตศาสตร์ช่างอุตสาหกรรม 1, 2 และ 3 อันเป็นลิขสิทธิ์ของโจทก์ต่อไปอีก ให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันส่งมอบหนังสือดังกล่าวที่มีขายอยู่ในท้องตลาดทั้งหมดให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ไม่ใช่ผู้ สร้างสรรค์ งาน หรือเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในหนังสือตามฟ้องหนังสือที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 พิมพ์ขึ้นมิได้เกิดจากการทำซ้ำ หนังสือตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่เคยสมคบหรือร่วมกับจำเลยที่ 3 ที่ 4ที่ 5 กระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ หรือว่าจ้างจำเลยที่ 3 ที่ 4ที่ 5 ให้พิมพ์หนังสืออันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในหนังสือของโจทก์ความจริงหนังสือกุญแจคณิตศาสตร์ช่างอุตสาหกรรม 1, 2 และ 3เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของนายเอกสิทธิ์ วิทยกุล ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์ในงานหนังสือ สอง เล่มนี้ แล้วนายเอกสิทธิ์ได้ขายลิขสิทธิ์ในหนังสือสองเล่มนี้ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 2 รับซื้อลิขสิทธิ์ในหนังสือสองเล่มนี้โดยสุจริต และไม่เคยทราบมาก่อนว่าหนังสือสองเล่มนี้พิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ในงานหนังสือของโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์งานหนังสือตามฟ้อง หนังสือกุญแจคณิตศาสตร์ช่างอุตสาหกรรม 1, 2 และ 3มิได้จัดพิมพ์ขึ้นโดยจำเลยที่ 3 ชื่อจำเลยที่ 3 ที่ปรากฏอยู่ในหน้า 6 ของหนังสือดังกล่าวมิใช่เครื่องหมายชื่อที่แท้จริงของจำเลยที่ 3 แต่เป็นเครื่องหมายปลอมเพื่อแอบอ้าง ชื่อจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 5เป็นเพียงผู้ถือหุ้นในห้างของจำเลยที่ 3 และถือหุ้นแทนจำเลยที่ 4เท่านั้น ทั้งมิได้สอดเข้าจัดการงานของจำเลยที่ 3 แต่อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าแม้จะถือว่างานตามหนังสือกุญแจคณิตศาสตร์ช่างอุตสาหกรรมตามเอกสารหมาย จ.4 และ จ. เป็นการทำซ้ำหรือดัดแปลงจากคู่มือครูคณิตศาสตร์ช่างอุตสาหกรรม 1, 2 และ 3ที่โจทก์มีลิขสิทธิ์อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 มาตรา 24 ผู้กระทำละเมิดคือนายเอกสิทธิ์วิทยกุล ผู้แต่งหนังสือ มิใช่จำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 1 รับซื้องานจากนายเอกสิทธิ์แล้วจึงพิมพ์เป็นหนังสือออกขายจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา 27 ก็ต่อเมื่อจำเลยที่ 1รู้อยู่แล้วว่างานตามหนังสือเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ และว่าข้อเท็จจริงคดีนี้ฟังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 จัดพิมพ์หนังสือเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 ออกขายโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ และฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณาหนังสือเอกสารหมาย จ.5 เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 3 มิได้ทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยที่ 2ที่ 4 และที่ 5 จึงไม่ต้องรับผิดด้วย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน 200,000 บาท และให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์อีกจำนวน 100,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี ในต้นเงินแต่ละจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งห้าและจำเลยที่ 1 ที่ 2 จะชำระให้โจทก์เสร็จ ห้ามจำเลยทั้งห้าจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ ให้จำเลยทั้งห้าส่งมอบหนังสือพิพาทเอกสารหมาย จ.5 ให้โจทก์ และให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ส่งมอบหนังสือพิพาทเอกสารหมาย จ.4 ให้โจทก์ ให้จำเลยทั้งห้าร่าม กันชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ ค่าขึ้นศาลให้จำเลยทั้งห้าชดใช้เท่าที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความรวมสองศาลเป็นเงิน5,000 บาท คำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยทั้งห้าฎีกาว่า จำเลยทั้งห้าจัดพิมพ์หนังสือตามเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 ออกขาย จะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานหนังสือที่โจทก์มีลิขสิทธิ์ต้องปรากฏว่าจำเลยทั้งห้ารู้อยู่แล้วว่าหนังสือตามเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 นี้ถูกพิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 แต่โจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งห้าได้รู้อยู่แล้วว่าหนังสือตามเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 พิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ จำเลยทั้งห้าจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้น เห็นว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2521 มีได้ 2 กรณี คือ กรณีแรก เป็นการทำละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงตามมาตรา 24 ได้แก่การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 24(1) หรือ (2) คือการกระทำซ้ำหรือดัดแปลงงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์หรือการนำออกโฆษณาซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 13 กรณีที่สอง เป็นกรณีที่กฎหมายให้ถือว่าเป็นการละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตามมาตรา 27 ได้แก่การกระทำบางอย่างที่มิใช่เป็นการทำละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงอย่างเช่นกรณีตามมาตรา 24 แต่เป็นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 27(1) ถึง (4) แก่งานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์โดยตรงอีกต่อหนึ่ง ในกรณีเช่นนี้จึงต้องปรากฏว่าผู้กระทำรู้อยู่แล้วว่างานนั้นทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เช่น มีผู้อื่นพิมพ์หนังสือขึ้นมาเล่นหนึ่งโดยพิมพ์ซ้ำหรือดัดแปลงจากหนังสือที่โจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ แล้วจำเลยนำเอาหนังสือที่ผู้อื่นพิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์นั้นออกจำหน่าย ในกรณีเช่นนี้ต้องปรากฏว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นหนังสือที่พิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ เนื่องจากจำเลยมิใช่ผู้กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยตรงตามมาตรา 24 แต่กฎหมายให้ถือว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 27 คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานหนังสือคู่มือครูคณิตศาสตร์ช่างอุตสาหกรรม 1, 2 และ 3 ตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 จำเลยทั้งห้าได้ทำละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ดังกล่าว คือร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5โดยลอกเลียนจากหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 และศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 จำเลยทั้งห้าได้ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือเอกสารหมาย จ.5 และเฉพาะจำเลยที่ 1 ที่ 2 ยังได้จัดพิมพ์หนังสือเอกสารหมาย จ.4 โดยลอกเลียนดัดแปลงจากหนังสือเอกสารหมาย จ.1ถึง จ.3 ซึ่งเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ก่อน และให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้เท่ากับศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งห้าได้ทำซ้ำ หรือดัดแปลงแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์ เป็นกรณีจำเลยทั้งห้ากระทำละเมิดต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยตรงตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 จำเลยทั้งห้ามิได้ฎีกาโต้แย้งคัดค้านข้อวินิจฉัยดังกล่าวของศาลอุทธรณ์ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่จำเลยทั้งห้าฎีกาว่าโจทก์ นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งห้ารู้อยู่แล้วว่าหนังสือเอกสารหมาย จ.4 และ จ.5 พิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยทั้งห้าร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือดังกล่าวโดยทำซ้ำและดัดแปลงจากหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.3 ที่โจทก์มีลิขสิทธิ์เป็นกรณีจำเลยทั้งห้าร่วมกันทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์โดยตรงตามมาตรา 24โดยมิได้วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยทั้งห้าถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 27 คดีจึงไม่มีปัญหาว่าจำเลยทั้งห้ารู้หรือไม่ว่าหนังสือที่จำเลยทั้งห้าร่วมกันจัดพิมพ์ขึ้นตามเอกสารหมาย จ.5 ก็ดี หรือที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันจัดพิมพ์ขึ้นตามเอกสารหมาย จ.5 ก็ดี เป็นหนังสือที่พิมพ์ขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์
พิพากษายืน.

Share