คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกร้านค้าพร้อมด้วยสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ ฯลฯ เมื่อได้ชำระเงินและมอบหมายสิทธิการใช้โทรศัพท์ให้กันเป็นการ เสร็จเด็ดขาดแล้ว คงเหลือแต่พิธีการที่จะไปทำกับกรมไปรษณีย์โทรเลขเท่านั้น ดังนี้สิทธิย่อมตกแก่ผู้รับโอนแล้วมิใช่เป็นการจะซื้อจะขายไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้โอนกรรมสิทธิการเช่าตึกร้านค้าพร้อมด้วยสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์หมายเลย ๒๓๐๗๑ สิทธิการใช้น้ำประปา ฯลฯ โจทก์ชำระเงินแล้ว บัดนี้จำเลยไม่ยอมโอนสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ให้ และนำเจ้าพนักงานมาย้ายเครื่องโทรศัพท์ไปเสียจากร้าน ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยย้ายเครื่องโทรศัพท์มาติดไว้ที่ตึกโจทก์ตามเดิม และแก้ทะเบียนเป็นชื่อโจทก์ มิฉะนั้นให้ใช้ค่าเสียหาย ๑๐๐๐๐ บาท
จำเลยต่อสู้ว่าร้านค้านั้นเป็นของอาว์โจทก์ โทรศัพท์เป็นของส่วนตัวของจำเลย แต่โจทก์ขอไว้ใช้ก่อน ต่อมาโจทก์ตกลงซื้อแต่ไม่ชำระเงิน จำเลยจึงไม่โอนให้
ศาลแพ่งเชื่อว่าจำเลยได้ยอมเซ้งสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์รวมกันไปกับร้านค้าด้วย ข้อกฎหมายที่ว่าการเซ้งไม่มีสัญญาเป็นหนังสือนั้น เมื่อโจทก์ได้ชำระราคาค่าเซ้งแล้ว ถึงไม่ได้ทำเป็นหนังสือก็ใช้ได้ พิพากษาให้จำเลยจัดการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์ ฯลฯที่ ๒๓๐๗๑ ให้เป็นชื่อโจทก์เป็นผู้เช่าแทน จำเลยและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยได้เซ้งสิทธิการเช่าเครื่องโทรศัพท์ให้โจทก์ ส่วนฎีกาจำเลยในข้อกฎหมายนั้นหากจะถือว่ามีสัญญาเป็นการซื้อขาย ก็ได้ความว่าระหว่างโจทก์จำเลยได้มีการชำระเงินและมอบหมายสิทธิการใช้โทรศัพท์ให้กันเป็นการเสร็จเด็ดขาดแล้ว คงเหลือแต่พิธีการที่จะไปทำกับกรมไปรษณีย์โทรเลขเท่านั้น หาใช่เป็นการจะซื้อจะขายไม่ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

Share