คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โคของผู้เสียหายติดเข้าไปอยู่ในฝูงโคของจำเลย แยกไม่ออก ผู้เสียหายจึงสั่งจำเลยขอให้ดูไว้ด้วย
การพูดเช่นนี้จะถือว่าเป็นการรับมอบหมาย อันจะกลายเป็นผิดฐานยักยอกยังไม่ได้
ที่สุดเมื่อจำเลยกับพวกพาเอาโคของผู้เสียหายไป จึงมีความผิดฐานลักปศุสัตว์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294
แต่เนื่องจากประมวลกฎหมายที่ใช้อยู่บัดนี้ ไม่มีบัญญัติถึงการลักปศุสัตว์และสัตว์พาหนะโดยเฉพาะเช่นในมาตรา 294(กฎหมายอาญา)จึงต้องใช้มาตรา 293(กฎหมายอาญา) ซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าเป็นบทลงโทษจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก 2 คนที่ยังไม่ได้ตัวสมคบกันลักโค1 ตัว ของนางเกี้ยงไป ขอให้ลงโทษ

จำเลยปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเชื่อตามคำพยานโจทก์ ฟังว่า จำเลยกระทำผิดดังฟ้องจริง พิพากษาว่าจำเลยมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 294 ให้จำคุกจำเลย 1 ปี ฯลฯ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ยังฟังไม่ถนัดว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักโครายนี้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าพยานโจทก์ฟังได้ว่า โคของผู้เสียหายติดตัวเมียรวมเข้าไปอยู่ในฝูงโคของจำเลยและในที่สุดมีผู้เห็นจำเลยกับพวกพาโคของผู้เสียหายไปแต่การที่ผู้เสียหายสั่งจำเลยขอให้จำเลยดูไว้ให้ด้วยนั้น เห็นว่าการพูดเช่นนี้จะถือว่าเป็นการรับมอบหมายอันจะกลายเป็นผิดฐานยักยอกยังไม่ได้ เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังฟ้อง แต่เนื่องจากประมวลกฎหมายที่ใช้อยู่บัดนี้ ไม่มีบัญญัติถึงการลักปศุสัตว์และสัตว์พาหนะโดยเฉพาะ เช่นที่บัญญัติไว้ในมาตรา 294 กฎหมายลักษณะอาญาต้องใช้มาตรา 293 กฎหมายลักษณะอาญาซึ่งมีอัตราโทษเบากว่าเป็นบทลงโทษจำเลย พิพากษากลับบังคับคดีลงโทษจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ให้ใช้มาตรา 293 กฎหมายลักษณะอาญาเป็นบทลงโทษแทน

Share