แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชั้นบังคับคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนเนื่องจากโจทก์เป็นหนี้เงินกู้กรรมการของบริษัทจำเลย และกรรมการของบริษัทจำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์ต่อศาลแพ่งแล้วศาลแรงงานกลางเห็นว่า คำร้องไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขอให้งดการบังคับคดีได้ จึงไม่เห็นควรให้งดการบังคับคดีตามคำร้องและให้ยกคำร้อง เช่นนี้ เป็นการสั่งตามอำนาจที่ใช้ดุลพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ขอให้สั่งให้ศาลแรงงานกลางไต่สวนเพื่อมีคำสั่งให้งดการบังคับคดี จึงเป็นอุทธรณ์คัดค้านดุลพินิจของศาลแรงงานกลางอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลแรงงานกลางพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ 5,000 บาทถึงกำหนดจำเลยไม่ชำระ โจทก์ขอให้ออกหมายบังคับคดี
จำเลยยื่นคำร้องว่า โจทก์เป็นลูกหนี้เงินกู้ของนายประวิตรสังขธรรมวงศ์ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจำเลยจำนวน 42,400 บาทและกรรมการของบริษัทจำเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งต่อศาลแพ่งจำเลยเห็นว่าคดีนี้และคดีที่ศาลแพ่งมีทางตกลงกันได้และสามารถหักกลบลบหนี้กันได้เพราะนายประวิตรเป็นผู้กระทำการแทนบริษัทจำเลยอยู่แล้ว และกรรมการของบริษัทจำเลยก็ยอมให้หักกลบลบหนี้กันได้ขอให้งดการบังคับคดีนี้ไว้ก่อน
ศาลแรงงานกลางเห็นว่า คำร้องไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขอให้งดการบังคับคดีได้ จึงไม่เห็นควรให้งดการบังคับคดีตามคำร้อง มีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่ศาลแรงงานกลางพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องแล้วเห็นว่าไม่เห็นควรให้งดการบังคับคดีตามคำร้องนั้น เป็นการสั่งตามอำนาจที่ใช้ดุลพินิจพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลแรงงานกลางไต่สวน เพื่อมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีจึงเป็นอุทธรณ์คัดค้านดุลพินิจของศาลแรงงานกลางอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย.