แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด3เดือนและปรับ1,500บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้2ปีคุมประพฤติ1ปีโดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ3เดือนต่อครั้งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา56จำเลยไม่ไปรายงานตัวตามกำหนดศาลชั้นต้นยกเลิกการคุมประพฤติและเปลี่ยนโทษจากการรอการลงโทษจำคุกเป็นไม่รอการลงโทษเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค3พิพากษาแล้วคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค3ย่อมเป็นที่สุดตามพระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญาพ.ศ.2522มาตรา17วรรคสองจำเลยจะฎีกาไม่ได้
ย่อยาว
คดี สืบเนื่อง มาจาก ศาลชั้นต้น มี คำพิพากษา ลงโทษ จำเลย ฐานมี ฝิ่นสุก จำนวน 8 ห่อ น้ำหนัก 0.45 กรัม ไว้ ใน ครอบครอง ตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8,17, 69 จำคุก 6 เดือน และ ปรับ 3,000 บาท จำเลย ให้การรับสารภาพเป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา ลดโทษ ให้ กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คง จำคุก 3 เดือน และ ปรับ 1,500 บาท โทษ จำคุก ให้ รอ การลงโทษ ไว้ 2 ปี ไม่ชำระ ค่าปรับ ให้ จัดการ ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30 คุมประพฤติ 1 ปี โดย ให้ ไป รายงาน ตัว ต่อพนักงานคุมประพฤติ ทุก 3 เดือน ต่อ ครั้ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ต่อมา พนักงานคุมประพฤติ รายงาน ว่า จำเลย ไม่ไป รายงาน ตัวตาม กำหนด และ จำเลย แถลงรับ ต่อ ศาลชั้นต้น ว่า ก่อน ถูกจับ กุม ใน คดี นี้จำเลย เคย ถูกจับ กุม เกี่ยวกับ ยาเสพติดให้โทษ รวม 3 คดี ซึ่ง แต่ละ คดีศาลชั้นต้น รอการลงโทษ และ ให้ คุม ความประพฤติ ของ จำเลย ไว้ ทั้ง 3 คดี
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง ว่า วิธีการ คุมประพฤติ ไม่ เหมาะสม และใช้ ไม่ได้ ผล แก่ จำเลย จึง ให้ยก เลิก การ คุมประพฤติ และ เปลี่ยน จาก การรอลงโทษ จำคุก จำเลย เป็น ไม่รอการลงโทษ
จำเลย อุทธรณ์ ขอให้ รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา ขอให้ รอการลงโทษ
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า คดี นี้ ศาลชั้นต้น พิพากษา ลงโทษ จำคุก จำเลยมี กำหนด 3 เดือน และ ปรับ 1,500 บาท โทษ จำคุก ให้ รอการลงโทษ ไว้2 ปี คุมประพฤติ 1 ปี โดย ให้ ไป รายงาน ตัว ต่อ พนักงานคุมประพฤติ3 เดือน ต่อ ครั้ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 จำเลย ไม่ไป รายงาน ตัวตาม กำหนด ศาลชั้นต้น เห็นว่า วิธี คุมประพฤติ ไม่ เหมาะสม และ ใช้ ไม่ได้ ผลแก่ จำเลย จึง ให้ยก เลิก การ คุมประพฤติ และ เปลี่ยน โทษ จาก การ รอการลงโทษจำคุก เป็น ไม่รอการลงโทษ เมื่อ ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 มี คำพิพากษา แล้วคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ย่อม เป็น ที่สุด ตาม พระราชบัญญัติวิธี ดำเนินการ คุมประพฤติ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2522 มาตรา 17จำเลย จะ ฎีกา ไม่ได้ ที่ ศาลชั้นต้น สั่ง รับ ฎีกา จำเลย มา จึง ไม่ชอบศาลฎีกา ไม่ วินิจฉัย ให้
พิพากษายก ฎีกา จำเลย