แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รับม้าที่ถูกผู้ร้ายลักไป ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องสืบว่า จำเลยรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย จึงจะลงโทษฐานรับของโจรได้
การที่มีม้าไว้โดยแสดงความบริสุทธิ์ไม่ได้ มีผิดแต่เฉพาะตาม พระราชบัญญัติสัตว์พาหนะเท่านั้น
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานรับของโจร
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่า ม้าของกลางเป็นของผู้เสียหายจริงแต่โจทก์สืบไม่ได้ความว่า จำเลยรับม้านั้นไว้โดยรู้อยู่ว่าเป็นของที่ได้มาจากกระทำผิด และไม่ได้ความถึงข้อพิรุธอันใดจึงพิพากษาแก้ให้ยกข้อหาฐานรับของโจร
โจทก์ฎีกาว่า ตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ 2482 มาตรา 21โยนหน้าที่นำสืบให้จำเลยต้องนำสืบความบริสุทธิ์ของตน หาใช่โจทก์ไม่และโจทก์นำสืบได้ความพอแล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ พ.ศ. 2482มาตรา 21 ที่โจทก์อ้างนั้นเป็นบทบัญญัติเพื่อการพิจารณาลงโทษตามพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะนั้นเอง หามีบทบัญญัติในที่ใดว่า ถ้าผู้ใดมีกระบือแสดงความบริสุทธิ์ไม่ได้ ให้เป็นความผิดฐานรับของโจรตามกฎหมายลักษณะอาญา ตรงกันข้ามกลับมีบทกำหนดโทษฐานแสดงความบริสุทธิ์ไม่ได้ไว้ใน มาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัตินั้น เห็นได้ชัดว่าข้อที่โยนหน้าที่ให้แสดงความบริสุทธิ์ที่โจทก์อ้างนั้นเป็นเรื่องของพระราชบัญญัตินั้นโดยเฉพาะ คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา จึงนำมาใช้ปรับคดีเพื่อลงโทษฐานรับของโจรตามโจทก์ขอไม่ได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์