แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ถูกทำร้ายจะต่อยจำเลย ๆ จึงไข่ขวานฟันถึงสาหัส เปนป้องกันเกินกว่าเหตุ.
ย่อยาว
โจทฟ้องว่าจำเลยไข้ขวานทำร้ายผู้เสียหาย ได้ความว่าจำเลยกินมะม่วงของผู้เสียหายซึ่งเปนบิดาเลี้ยง ๑ ผล ผู้เสียหายไห้จำเลยคอยออกมาเปนมะม่วงมิฉนั้นจะฟันคอค่าเสีย แล้วผู้เสียหายเอามีดออกมาทำท่าจะฟันจำเลย ๆ โดดเรือนหนี มีคนแย่งมีดไว้ ผู้เสียหายโดดเรือนไปต่อยและถีบจำเลย ๆ หนีไปฉวยขวานแกว่งไปมาผู้เขียนวิ่งเข้าจะต่อยจำเลย จึงเอา+ผู้เสียหายเนื้อแหว่งไป เปนบาดแผลสาหัส
สาลชั้นต้นและสาลอุธรน์พิพากสาว่า เปนการป้องกันตัวพอสมควนแก่เหตุ ยกฟ้องโจท แต่มีความเห็นแย้งของผู้พิพากสาสาลอุธรน์นายหนึ่งว่า จำเลยกะทำการป๋องกันตัวเกินกว่าเหตุ ผิดตามมาตรา ๒๕๖, ๕๓
โจทดีกา สาลดีกาเห็นว่า ขนะที่ผู้เสียหายจะต่อยผู้เสียหายคงมีแต่มือเปล่าเท่านั้น เพราะมีผู้แย่งมีดไว้ได้เสียแล้ว จำเลยฟันไปที่สีสะของผู้เสียหาย ถ้าถึงตายจะเห็นว่าเปนการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุแน่ แต่เคราะห์ดีเพียงถูกหูสาหัสเท่านั้น การป้องกันของจำเลยโดยฟันด้วยขวานเช่นนี้ จึงเปนการป้องกันเกินกว่าเหตุ เพราะนอกจากผู้เสียหายมือเปล่าแล้ว ขนะนั้นก็เมาสุราด้วย และไม่ปรากตว่านอกจากจะต่อยแล้วผู้เสียหายจะไปแย่งขวานหรือจะทำร้ายด้วยอาวุธ+ จึงพิพากสาแก้ ลงโทสจำเลยตามกดหมายลักสนะอาญาไว้ตามมาตรา ๔๑, ๔๒.