คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้หนึ่งรับเงินไว้แล้วเอาไปใช้เสียยังหามีความผิดฐานยักยอกไม่โจทก์ต้องพิศูจน์ให้เห็นเจตนาทุจจริตของจำเลยว่ามีเจตนายักยอก มิฉะนั้นเป็นเพียงคดีแพ่งที่จะฟ้องเรียกร้องกันเท่านั้น หน้าที่นำสืบ

ย่อยาว

คดีปรากฎว่าเจ้าทุกข์(นายเ+)กับจำเลยเข้าทุนกันตั้งร้านตัดเสื้อโดยให้จำเลยเป็นผู้จัดการ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยยักยอกเงิน ๖ บาท ๓๐ สตางค์ ซึ่งมีผู้มาตัดเสื้อและชำระให้จำเลยไว้แล้วเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ซึ่งจำเลยปฏิเสธรับว่าได้รับเงินไว้จริง แต่ส่งมอบให้เจ้าทุกข์ไปแล้ว
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามข้อเท็จจริงปรากฎว่าคดีตกอยู่ในระหว่างสงสัยจะโอนหน้าที่ให้จำเลยนำสืบพิศูจน์ความบริสุทธิในเรื่องนี้ดังศาลล่างวินิจฉัยมานั้นไม่ถูกต้อง และเมื่อคดีได้ความเพียงว่าจำเลบรับว่าได้รับเงินไว้เท่านั้น หาเป็นความผิดฐานยักยอกไม่ โจทก์ต้องแสดงว่าจำเลยได้ทุจจริตยักยอกเงินนั้นเสีย เพียงแต่รับเงินไว้แล้วไม่ลงบัญชีแล้วเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียแต่ยังไม่ส่งมอบให้ผู้เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งโดยปกติย่อมเป็นความแพ่งที่จะฟ้องร้องขอแบ่งกัน โจทก์ต้องแสดงความทุจจริตของจำเลยคดีจึงจะเป็นความอาญาตามฟ้อง จึงพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์เสีย ยืนตามศาลอุทธรณ์

Share