คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้บ้านที่ซื้อฝากไว้จะหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ผู้รับซื้อฝากตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่ถ้าผู้ขายฝากยังไม่ได้มอบบ้านให้แก่โจทก์ผู้รับซื้อฝาก ๆ จะฟ้อง จำเลยผู้อาศัยผู้ขายฝากอยู่ ไม่ฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ขายฝากส่งมอบบ้าน โดยจะถือว่าผู้ขายฝากเป็นบริวารของจำเลยหาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากบ้านพิพาทโดยกล่าวว่า โจทก์ซื้อฝากไว้จากนางละออ เนตรตารุณ มารดาจำเลย เมื่อครบกำหนดนางละออไม่ได้ถอน จำเลยได้ขออาศัยอยู่ตั้งแต่เริ่มทำสัญญาขายฝากและไม่ยอมออกจากบ้านพิพาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารตามฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุด ระหว่างบังคับคดี นางละออ เนตรตารุณผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของบ้านพิพาทไม่เคยขายฝากบ้านพิพาทให้โจทก์ มีผู้ปลอมลายมือชื่อของผู้ร้องลงในใบมอบอำนาจให้ทำการขายฝาก ผู้ร้องไม่ใช่บริวารของจำเลย ขอให้ศาลงดการบังคับแก่ผู้ร้อง ศาลชั้นต้นสั่งว่าผู้ร้องเป็นคนนอกคดี โจทก์ยังไม่ได้บังคับคดีถึงผู้ร้อง ให้ยกคำร้อง
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องให้ออกหมายจับนางละออที่ไม่ยอมออกจากบ้านพิพาทในฐานะบริวารจำเลย
ศาลชั้นต้นถือว่า นางละออผู้ร้องอยู่ในฐานะบริวารจำเลย บังคับให้ผู้ร้องออกจากบ้านพิพาทภายใน ๑ เดือน นางละออผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกคำร้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ป.พ.พ. มาตรา ๔๕๘ หมายถึงการซื้อขายธรรมดา แต่สัญญาขายฝากเป็นสัญญามีเงื่อนไขบังคับหลัง คือผู้ขายฝากมีสิทธิจะไถ่คืนได้ภายในกำหนดสัญญา และผู้ซื้อฝากไม่จำต้องเข้าครอบครองก่อน เพราะเมื่อผู้ขายฝากไถ่คืนได้ภายในกำหนด เป็นอันว่ากรรมสิทธิ์ไม่เคยตกแก่ผู้ซื้อเลย ตามฟ้อง ไม่ปรากฎว่าผู้ร้องได้มอบบ้านพิพาทให้โจทก์ครอบครอง ผู้ร้องจะอยู่ที่บ้านพิพาทหรือไม่ ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของ เมื่อหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ตามสัญญา ผู้ร้องยังไม่ได้ส่งมอบบ้านให้โจทก์ ๆ ชอบที่จะฟ้องขอให้ศาลบังคับ โจทก์จะถือว่าผู้ร้องเป็นบริวารจำเลยผู้อาศัยไม่ได้ และผู้ร้องอ้างกรรมสิทธิ์ทั้งปฏิเสธการขายฝากกับโจทก์ โจทก์กับผู้ร้องจึงต้องไปว่ากล่าวกันต่อไป พิพากษายืน

Share