คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 502/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระเบียบการของกระทรวงมหาดไทยใช้บังคับเฉพาะภายในวงอันจำกัดไม่ได้ประกาศเป็นกฎหมายไม่มีผลบังคับได้ทั่วไป และประชาชนไม่จำต้องรับรู้เป็นเรื่องข้อเท็จจริงจะยืนยันแต่เพียงว่ามีระเบียบการนั้นๆ อยู่แล้วหากไม่ปฏิบัติโดยจะรู้หรือไม่รู้ว่ามีอยู่ก็เป็นการกระทำผิดกฎหมายในตัวแล้ว ดังนี้หาได้ไม่
การกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ฝ่าฝืนระเบียบนั้นจะต้องปรากฏว่าผู้นั้นได้รู้ว่ามีระเบียบอยู่แล้วยังปฏิบัติฝ่าฝืนถ้าได้ปฏิบัติไปตามปกติจะว่าการที่ไม่รู้และไม่ปฏิบัติตามระเบียบเป็นการประมาทเลินเล่ออันเป็นละเมิดไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 4 เป็นคณะเทศมนตรีของเทศบาลเมืองลพบุรีประมาทเลินเล่อ โดยฝ่าฝืนต่อระเบียบการรักษาเงินของกระทรวงมหาดไทยปล่อยให้นายธนูปลัดเทศบาลและรักษาการในตำแหน่งสมุห์บัญชีซึ่งอยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยรักษาเงินไว้ เป็นเหตุให้นายธนูยักยอกเงินของเทศบาลไป และศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว จึงให้จำเลยทั้ง 4 ร่วมกันรับผิดกับนายธนูใช้เงินให้แก่โจทก์

จำเลยต่อสู้หลายประการและตัดฟ้องว่า จำเลยไม่ได้กระทำการละเมิดต่อโจทก์เพราะระเบียบการรักษาเงินที่โจทก์อ้างมานั้นไม่ใช่กฎหมาย จำเลยไม่รู้ว่ามีระเบียบการเช่นนั้น และไม่ได้ประมาทเลินเล่อ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อตัดฟ้องนั้น รูปคดีไม่ต้องตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ถึงมาตรา 430 จะปรับบทได้ก็แต่เพียงมาตรา 420 ซึ่งใช้ได้แต่เฉพาะการละเมิดที่ผู้นั้นกระทำด้วยตนเองเรื่องนี้จำเลยมิได้กระทำอย่างใดเลยและการกระทำดังว่านี้ไม่หมายถึงการงดเว้นด้วย ระเบียบการรักษาเงินตามที่โจทก์อ้างไม่ใช่กฎหมายและจำเลยไม่ทราบว่ามีระเบียบเช่นนั้นจะฟังว่าจำเลยประมาทเลินเล่อเพราะเหตุที่มิได้ตั้งกรรมการรักษาเงินเท่านั้นยังไม่ได้ ข้อตัดฟ้องนี้ฟังขึ้นไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยปัญหาอื่นต่อไป พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าระเบียบการของกระทรวงมหาดไทยไม่ใช่กฎหมายแต่ในเรื่องละเมิดนั้นเห็นว่าการละเว้นการกระทำบางทีก็อาจเป็นละเมิดได้เมื่อการละเว้นนั้นเป็นการฝ่าฝืนหน้าที่ที่กฎหมายบังคับให้กระทำหรือว่าเป็นหน้าที่อันผูกพันอยู่โดยศีลธรรมซึ่งทุกคนจะต้องเคารพ เมื่อปรากฏว่าจำเลยเข้าบริหารงานโดยมิได้รับมอบหน้าที่และไม่รู้ว่ามีระเบียบดังกล่าว แม้จำเลยจะงดเว้นไม่ปฏิบัติก็ฟังว่าจำเลยประมาทเลินเล่อไม่ได้ พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาว่าจำเลยกระทำผิดกฎหมายและประมาทเลินเล่ออันเป็นการละเมิดต่อโจทก์

ศาลฎีกาเห็นว่าระเบียบการรักษาเงินที่โจทก์อ้างนั้นเป็นแต่เพียงระเบียบการภายในในวงงานอันจำกัด ไม่ได้ประกาศเป็นกฎหมายไม่มีผลบังคับได้ทั่วไปและประชาชนไม่จำต้องรับรู้ ศาลฎีกาเห็นพ้องตามคำวินิจฉัยของศาลล่างทั้ง 2 ว่าไม่ใช่กฎหมาย การที่จะอ้างว่าจำเลยได้รู้ถึงระเบียบการรักษาเงินดังกล่าวนี้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องข้อเท็จจริง จะยืนยันแต่เพียงว่ามีระเบียบการรักษาเงินดังนั้นอยู่และจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็เป็นการกระทำผิดกฎหมายในตัวแล้วดังนี้หาได้ไม่

เมื่อปรากฏว่าจำเลยเพิ่งทราบว่ามีหลักปฏิบัติตามระเบียบในตอนหลัง จะหาว่าจำเลยปฏิบัติฝ่าฝืนระเบียบได้อย่างไร เพราะการฝ่าฝืนนั้นต้องรู้ว่ามีข้อบังคับให้กระทำหรืองดเว้นไม่กระทำ แล้วยังฝ่าฝืนขืนกระทำหรืองดเว้นเสียแต่จำเลยไม่ทราบว่ามีระเบียบนั้นเลยเจ้าหน้าที่รักษาเงินก็มีอยู่ จำเลยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างใดให้เสื่อมเสียแก่เทศบาล จึงไม่มีทางจะฟังว่าจำเลยประมาทเลินเล่อพิพากษายืน

Share