แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยไม่มีอาชีพในทางค้าเสาไม้เคยขออนุญาตตัดฟันไม้ แต่รับจะจัดการตัดเสาอ้างว่ามีโควต้าทำไม้ผู้เสียหายยอมให้เงิน 3,600 บาทค่าลูกจ้างและค่าเข็นโดยจำเลยว่าเสาตามที่สั่งตัดไว้ครบแล้วหลังจากนั้นอีกนานก็ไม่มีเสามา เมื่อถูกจับก็บอกกับตำรวจว่าหาเสาไม่ได้ แต่กลับปฏิเสธต่อผู้เสียหายว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้รับเงิน พฤติการณ์ดั่งกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดฉ้อโกงทรัพย์ของผู้เสียหาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้อุบายหลอกลวงนายพินว่าเป็นพ่อค้าไม้จะขายไม้เสาใหม่ไม้เสาอยู่ที่บ้านแล้ว ซึ่งเป็นข้อความเท็จ ความจริงจำเลยมิได้เป็นพ่อค้าไม้ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ทำไม้ ที่บ้านก็ไม่มีเสา โดยเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงผู้เสียหาย ๆ ได้มอบเงินให้จำเลย 3,600 บาท ขอให้ลงโทษ
จำเลยต่อสู้ว่าเป็นเพื่อนกับนายพิน ๆ ไปขอให้จ้างวานตัดเสาให้โดยโควต้าค่าชักลากไม้เป็นของนายพิน จำเลยจ้างคนตัดแล้วจึงไปขอรับเงินจ่ายให้คนตัด 3,600 บาท และให้ไปตรวจรับไม้ แต่นายพินบอกว่าได้เสาที่อื่นแล้วไม่เอาขอคืนเงิน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเพราะเป็นเรื่องแพ่ง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 304 ให้จำคุก 3 เดือน และให้ใช้เงิน 3,600 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้วทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีอาชีพในทางค้าเสาแต่จำเลยก็รับจะจัดการตัดเสาส่งให้แก่ผู้เสียหายโดยอ้างว่าจำเลยมีโควต้าค้าไม้อยู่แล้วสะดวกทุกอย่าง ต่อมาผู้เสียหายได้ยอมให้เงิน 3,600 บาท แก่จำเลยก็เพราะจำเลยไปบอกว่าเสาที่ผู้เสียหายสั่งได้ตัดไว้ครบแล้วอยู่ที่ห้วยอีจิ๋ว จำเลยเอาเงินไปให้ค่าลูกจ้างและค่ารถเข็นเสามาไว้ที่ตำบลเพนียดหลังจากนั้นมานานก็ไม่มีเสามาไว้ที่บ้านจำเลย จำเลยไม่เคยขออนุญาตตัดฟันไม้ เมื่อตำรวจจับจำเลย ๆ ได้บอกตำรวจผู้จับว่าจำเลยหาเสาไม่ได้ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายเตือนจำเลย ๆ กลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องเงินก็ไม่ได้รับ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยเจตนาทุจริตทำการฉ้อโกงทรัพย์ของผู้เสียหาย
จึงพิพากษายืน